ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนพฤษภาคม 2556 (May 2013 )

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 5, 2013 14:55 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 202 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก                                 พ.ค. 56 = 54.7
  เดือน         %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  พฤษภาคม 56   36.6       36.2      27.2       9.4     54.7
  เมษายน  56   27.4       26.0      46.6     -19.2     40.4
  มีนาคม   56   46.0       24.5      29.5      16.5     58.3

ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนพฤษภาคม 2556 มีค่าเท่ากับ 54.7 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลงได้แก่ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่                                   พ.ค. 56 = 53.0
  เดือน         %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  พฤษภาคม 56   31.7        42.6      25.7       6.0     53.0
  เมษายน  56   27.1        30.4      42.5     -15.4     42.3
  มีนาคม   56   41.4        30.8      27.8      13.6     56.8

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนพฤษภาคม 2556 มีค่า 53.0 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ สิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน

ดัชนีการจ้างงาน                                   พ.ค. 56 = 53.3
  เดือน          %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  พฤษภาคม 56    19.6        67.3      13.1       6.5     53.3
  เมษายน  56    15.7        65.2      19.1      -3.4     48.3
  มีนาคม   56    17.2        70.7      12.1       5.1     52.5

ดัชนีการจ้างงานเดือนพฤษภาคม 2556 มีค่าเท่ากับ 53.3 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกสูงขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง                                     พ.ค. 56 = 45.5
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  พฤษภาคม 56      21.0       49.0      30.0      -9.0      45.5
  เมษายน  56      28.9       40.2      30.9      -2.0      49.0
  มีนาคม   56      27.2       42.5      30.3      -3.1      48.5

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนพฤษภาคม 2556 มีค่า 45.5 สินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา
  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
  • ขาดแคลนแรงงานคุณภาพและแรงงานท้องถิ่น
  • การแข่งขันทางด้านราคาในตลาดโลก
  • ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และพลังงานสูงขึ้น
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
  • พัฒนาแรงงานให้เป็นแรงงานมีฝีมือมากขึ้น
  • ชดเชยค่าไฟฟ้าแก่ผู้ประกอบการเพื่อการส่งออก
  • ปรับเพิ่มอัตราชดเชยภาษีแก่สินค้าส่งออกให้ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

โทร.0 2507 5800 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825

www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ