การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 202 ราย ได้ผลดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก ส.ค. 56 = 45.3
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี สิงหาคม 56 32.8 25.0 42.2 -9.4 45.3 กรกฎาคม 56 34.0 32.5 33.5 0.5 50.2 มิถุนายน 56 8.9 26.5 34.6 4.3 52.1
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนสิงหาคม 2556 มีค่าเท่ากับ 45.3 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารทะเล แช่เยือกแข็ง อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ส.ค. 56 = 45.9
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี สิงหาคม 56 28.4 35.0 36.6 -8.2 45.9 กรกฎาคม 56 29.6 44.7 25.7 3.9 51.9 มิถุนายน 56 34.1 32.7 33.2 0.9 50.5
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนสิงหาคม 2556 มีค่า 45.9 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ดัชนีการจ้างงาน ส.ค. 56 = 47.9
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี สิงหาคม 56 12.6 70.6 16.8 -4.2 47.9 กรกฎาคม 56 12.7 76.0 11.3 1.4 50.7 มิถุนายน 56 17.1 70.6 12.3 4.8 52.4
ดัชนีการจ้างงานเดือนสิงหาคม 2556 มีค่าเท่ากับ 47.9 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกชะลอตัวลง
ดัชนีสินค้าคงคลัง ส.ค. 56 = 48.4
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี สิงหาคม 56 26.7 43.5 29.8 -3.1 48.4 กรกฎาคม 56 19.6 50.0 30.4 -10.8 44.6 มิถุนายน 56 20.2 47.6 32.2 -12.0 44.0
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนสิงหาคม 2556 มีค่า 48.4 สินค้าคงคลังที่ลดลง ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง รองเท้าและชิ้นส่วน
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- แรงงานมีการเข้าออกบ่อย
- วัตถุดิบขาดแคลน
- ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น
- ภาวะเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- พัฒนาแรงงานด้านอุตสาหกรรม
- มีมาตรการกีดกันการทุ่มตลาดของประเทศคู่แข่ง
- ปรับเพิ่มอัตราชดเชยภาษีแก่สินค้าส่งออกให้ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th