ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก ( Export Business Expectation Index ) ไตรมาส 4/2556 (Q4/2013)

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2013 16:25 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ไตรมาส 4/2556 การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 205 ราย คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 4/2556 (ตุลาคม - ธันวาคม) การส่งออกและความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยดัชนี มีค่า 57.5 และ 53.8 ตามลำดับ

ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก                  ไตรมาส 4/2556 = 57.5
  ไตรมาส           %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  4/2556           35.5       44.0   20.51        5.05      7.5
  3/2556           36.7      51.71    1.62        5.16      2.6
  2/2556           33.3      48.81    7.91        5.45      7.7
  1/2556           34.2      50.51    5.31        8.95      9.4

ผู้ประกอบการส่งออก คาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 4/2556 (ตุลาคม - ธันวาคม) จะดีขึ้น ร้อยละ 35.5 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 44.0 และลดลง ร้อยละ 20.5 ทำให้ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก มีค่าเท่ากับ 57.5 แสดงว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดี

สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก ลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องอิเลคทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน            ไตรมาส 4/2556 = 53.8
  ไตรมาส           %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง     ดัชนี
  4/2556          25.45         6.8      17.8       7.6    53.8
  3/2556          26.76         2.1      11.2      15.5    57.8
  2/2556          27.15         6.2      16.7      10.4    55.2
  1/2556          29.65         5.6      14.8      14.8    57.4

ในไตรมาสที่ 4/2556 (ตุลาคม - ธันวาคม) ผู้ประกอบการส่งออกคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น ร้อยละ 25.4 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 56.8 และลดลง ร้อยละ 17.8 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่า 53.8 แสดงว่าผู้ประกอบการส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน สูงขึ้นได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ยางพารา สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขันลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รองเท้าและชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์

ดัชนีมูลค่าส่งออก                                   ก.ย. 56 = 47.1
  เดือน          %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  กันยายน  56    36.3       21.5       42.2      -5.9     47.1
  สิงหาคม  56    33.2       24.8       42.0      -8.8     45.6
  กรกฎาคม 56    34.0       32.5       33.5       0.5     50.2

ดัชนีมูลค่าส่งออกเดือนกันยายน 2556 มีค่า 47.1 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออก เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและ แปรรูป

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่                                     ก.ย. 56 = 46.3
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  กันยายน  56      33.0       26.6      40.4      -7.4      46.3
  สิงหาคม  56      28.0       35.8      36.2      -8.2      45.9
  กรกฎาคม 56      29.6       44.7      25.7       3.9      51.9

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เดือนกันยายน 2556 มีค่า 46.3 สินค้าที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพารา รองเท้าและชิ้นส่วน เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เชื้อเพลิงและพลังงาน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ไม่รวมคอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป

ดัชนีสินค้าคงคลัง                                     ก.ย. 56 = 42.3
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  กันยายน  56      24.8       35.1      40.1     -15.3      42.3
  สิงหาคม  56      27.5       42.1      30.4      -2.9      48.5
  กรกฎาคม 56      19.6       50.0      30.4     -10.8      44.6

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนกันยายน 2556 มีค่า 42.3 มูลค่าสินค้าคงคลังที่ ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยางพารา เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเล แช่เยือกแข็ง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผักผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง

ดัชนีการจ้างงาน                                     ก.ย. 56 = 48.0
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  กันยายน  56      13.9       68.3      17.8      -3.9      48.0
  สิงหาคม  56      13.7       68.7      17.6      -3.9      48.0
  กรกฎาคม 56      12.7       76.0      11.3       1.4      50.7

ดัชนีการจ้างงานในเดือนกันยายน 2556 มีค่าเท่ากับ 48.0 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกชะลอตัว

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา
  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
  • ขาดแคลนแรงงานและแรงงานเข้า-ออกบ่อย
  • ภัยธรรมชาติในประเทศและต่างประเทศ
  • ความไม่มั่งคงทางการเมือง
  • เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ
  • พัฒนาแรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นแรงงานมีฝีมือ
  • เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่นักลงทุน
  • อำนวยความสะดวกระบบขนส่งสินค้าทางเรือให้รวดเร็วขึ้น

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825

www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th


แท็ก การส่งออก   tat  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ