ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Expectation Index) ไตรมาส 2/2557 (Q2/2014)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 30, 2014 12:16 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ไตรมาส 2/2557 การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 214 ราย คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน - มิถุนายน) การส่งออกและความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยดัชนี มีค่า 62.4 และ 61.7 ตามลำดับ

ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก                   ไตรมาส 2/2557 = 62.4
   ไตรมาส         %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
   2/2557         42.6       39.7      17.7     24.9      62.4
   1/2557         32.8       47.9      19.3     13.5      56.8
   4/2556         35.5       44.0      20.5     15.0      57.5
   3/2556         36.7       51.7      11.6     25.1      62.6

ผู้ประกอบการส่งออก คาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน - มิถุนายน) จะดีขึ้น ร้อยละ 42.6 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 39.7 และลดลง ร้อยละ 17.7 ทำให้ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก มีค่าเท่ากับ 62.4 แสดงว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดี

สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูปยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเลคทรอนิกส์ สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออก ลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน

ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน            ไตรมาส 2/2557 = 61.7
  ไตรมาส           %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง     ดัชนี
  2/2557           36.3        50.8      12.9      23.4    61.7
  1/2557           26.8        56.9      16.3      10.5    55.3
  4/2556           25.4        56.8      17.8       7.6    53.8
  3/2556           26.7        62.1      11.2      15.5    57.8

ในไตรมาสที่ 2/2557 (เมษายน - มิถุนายน) ผู้ประกอบการส่งออกคาดการณ์ว่าความสามารถในการแข่งขันจะดีขึ้น ร้อยละ 36.3 ไม่เปลี่ยนแปลง ร้อยละ 50.8 และลดลง ร้อยละ 12.9 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่า61.7 แสดงว่าผู้ประกอบการส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน สูงขึ้นได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเลคทรอนิกส์

ดัชนีมูลค่าส่งออก                                    มี.ค. 57 = 57.3
  เดือน          %ดีขึ้น     %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง      ดัชนี
  มีนาคม 57      42.9        28.8      28.3      14.6     57.3
  กุมภาพันธ์ 57    36.7        22.6      40.7      -4.0     48.0
  มกราคม 57     31.4        24.8      43.8     -12.4     43.8

ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนมีนาคม 2557 มีค่าเท่ากับ 57.3 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลงได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ยางพารา

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่                                     มี.ค. 57 = 53.5
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  มีนาคม 57        38.2       30.7      31.1       7.1      53.5
  กุมภาพันธ์ 57      32.3       30.1      37.6      -5.3      47.3
  มกราคม 57       27.1       30.5      42.4     -15.3      42.4

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนมีนาคม 2557 มีค่า 53.5 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง.56กระป๋อง และแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้า สำเร็จรูป ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ

ดัชนีสินค้าคงคลัง                                       มี.ค. 57 = 46.4
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  มีนาคม 57        22.4       48.1      29.5      -7.1      46.4
  กุมภาพันธ์ 57      23.5       45.3      31.2      -7.7      46.2
  มกราคม 57       20.8       44.4      34.8     -14.0      43.0

ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนมีนาคม 2557 มีค่า 46.4 สินค้าคงคลังที่ ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูป ยางพารา เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง

ดัชนีการจ้างงาน                                        มี.ค. 57 = 50.7
  เดือน            %ดีขึ้น    %เท่าเดิม     %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
  มีนาคม 57        15.6       70.2      14.2       1.4      50.7
  กุมภาพันธ์ 57      14.7       71.9      13.4       1.3      50.7
  มกราคม 57       13.5       69.2      17.3      -3.8      48.1

ดัชนีการจ้างงานในเดือนมีนาคม 2557 มีค่าเท่ากับ 50.7 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มดี

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา
  • อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
  • ขาดแคลนแรงงานและแรงงานเข้า-ออกบ่อย
  • ภัยธรรมชาติในประเทศและต่างประเทศ
  • ความไม่มั่งคงทางการเมือง
ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • รักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ
  • พัฒนาแรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นแรงงานมีฝีมือ
  • เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่นักลงทุน
  • อำนวยความสะดวกระบบขนส่งสินค้าทางเรือให้รวดเร็วขึ้น

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ(leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825

www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th


แท็ก การส่งออก   tat  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ