การส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 211 ราย ได้ผลดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก พ.ค. 57 = 55.3
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี พฤษภาคม 57 42.1 26.3 31.6 10.5 55.3 เมษายน 57 25.4 29.1 45.4 -20.0 39.9 มีนาคม 57 42.9 28.8 28.3 14.6 57.3
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนพฤษภาคม 2557 มีค่าเท่ากับ 55.3 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ พ.ค. 57 = 56.7
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี พฤษภาคม 57 41.8 29.8 28.4 13.4 56.7 เมษายน 57 23.1 37.7 39.2 -16.1 42.0 มีนาคม 57 38.2 30.7 31.1 7.1 53.5 ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนพฤษภาคม 2557 มีค่าเท่ากับ 56.7 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ รองเท้าและชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลงได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา ดัชนีการจ้างงาน พ.ค. 57 = 54.1 เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี พฤษภาคม 57 19.7 68.8 11.5 8.2 54.1 เมษายน 57 10.8 76.9 12.3 -1.5 49.3 มีนาคม 57 15.6 70.2 14.2 1.4 50.7
ดัชนีการจ้างงานเดือนพฤษภาคม 2557 มีค่าเท่ากับ 54.1 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มดี
ดัชนีสินค้าคงคลัง พ.ค. 57 = 47.5
เดือน %ดีขึ้น %เท่าเดิม %ลดลง ผลต่าง ดัชนี พฤษภาคม 57 22.0 51.0 27.0 -5.0 47.5 เมษายน 57 11.9 64.8 23.3 -11.4 44.3 มีนาคม 57 22.4 48.1 29.5 -7.1 46.4
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนพฤษภาคม 2557 มีค่า 47.5 สินค้าคงคลังที่ลดลงได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้นได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋อง และแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ
- ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น แต่การปรับราคาสินค้าขึ้นทำได้ยาก
- ความไม่มีมั่นคงของรัฐบาลส่งผลให้ลูกค้าไม่มั่นใจ
- ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- กระตุ้นการส่งออก
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า
- ปรับเพิ่มอัตราชดเชยภาษีแก่สินค้าส่งออกให้ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน
1.กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th