การส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้น ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 204 ราย ได้ผลดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนมกราคม 2558 มีค่าเท่ากับ 51.7 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทออาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ไก่แช่เยือกแข็งและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนมกราคม 2558 มีค่า 50.2 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ยางพารา ไก่แช่เยือกแข็งและแปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนมกราคม 2558 มีค่า 46.3 สินค้าคงคลังที่ลดลงได้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผัก ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและ แปรรูป เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลังที่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา ไก่แช่เยือกแข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงาน
- ท่าเรือแออัดทำให้ส่งสินค้าล่าช้า
- ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
- ความสามารถในการแข่งขันลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น
- รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
- เร่งเจรจา FTA
- ลดราคาพลังงาน
- ปรับเพิ่มอัตราชดเชยภาษีแก่สินค้าส่งออกให้ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน
หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน
1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า
2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1 เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5 และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0
3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง
ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th