ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก (Export Business Index) ประจำเดือนธันวาคม (December 2016)
Highlights
ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออกในไตรมาสที่ 1/2560 (มกราคม-มีนาคม) ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออกและดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขันมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยดัชนี มีค่า 63.0 และ 59.1 ตามลำดับ
ดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออกผู้ประกอบการส่งออกคาดว่าการส่งออก ไตรมาสที่ 1/2560(มกราคม-มีนาคม) จะดีขึ้นร้อยละ39.9 ไม่เปลี่ยนแปลงร้อยละ 46.2 และลดลงร้อยละ 13.8 ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีคาดการณ์ภาวะธุรกิจส่งออก ไตรมาสที่ 1/2560 มีค่าเท่ากับ 63.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบเห็นว่าการส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น
สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ สินค้าในกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้ สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ข้าว ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน อาหารสำเร็จรูป และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ สาเหตุหลักเนื่องจากต่างประเทศมีการเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อจากประเทศไทย จากการขยายตัวทางการค้าในกลุ่มเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดีย บังคลาเทศ รวมถึงประเทศในทวีปแอฟริกา ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่งออกเร่งกำลังการผลิตเพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้าในช่วงต้นปีหน้า
สินค้าที่คาดว่าจะมีการส่งออกลดลงได้แก่ สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป
ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน ผู้ประกอบการส่งออกคาดว่าความสามารถในการแข่งขัน ไตรมาสที่ 1/2560 (มกราคม-มีนาคม) จะดีขึ้น ร้อยละ31.2 ไม่เปลี่ยนแปลงร้อยละ 55.7 และลดลง ร้อยละ 13.0 เป็นผลให้ดัชนีคาดการณ์ความสามารถในการแข่งขัน มีค่าเท่ากับ 59.1 แสดงว่าผู้ประกอบการส่งออกเห็นว่าความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
สินค้าที่คาดว่าจะมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นได้แก่ สินค้าในกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้ สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ข้าว ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็งเชื้อเพลิงและพลังงาน อาหารสำเร็จรูป และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ สาเหตุหลักมาจากความต้องการของตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
สินค้าที่คาดว่าความสามารถในการแข่งขัน ลดลงได้แก่ สินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป
ในภาพรวมดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกในเดือนธันวาคม 2559 เท่ากับ50.3 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 48.1 แสดงว่า
ในภาพรวมเท่ากับ50.3 ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 48.1 แสดงว่าผู้ส่งออกมีมุมมองว่าภาวะการส่งออกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ส่งออก จำนวน 253 ราย มีรายละเอียดผลการสำรวจดังนี้
ดัชนีมูลค่าส่งออก เดือนธันวาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 53.6 แสดงว่า มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้นปัจจัยหลักเป็นผลมาจากในภาคอุตสาหกรรมเร่งกำลังการผลิตสินค้ามากขึ้น สินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้นได้แก่ กลุ่มสินค้ายานพาหนะ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ข้าว ยางพารา และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่สินค้าที่มีมูลค่าส่งออก ลดลงได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้ สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน และอาหารสำเร็จรูป
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ เดือนธันวาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 53.8 แสดงว่า คำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน เอเชีย ยุโรป อเมริกาใต้ และตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ เพิ่มขึ้นได้แก่ กลุ่มสินค้ายานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ข้าว ยางพารา อาหารสำเร็จรูป และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่สินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ ลดลงได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้ สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป และอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง
ดัชนีการจ้างงาน เดือนธันวาคม 2559 มีค่าเท่ากับ 52.4 แสดงให้เห็นว่าทิศทางการจ้างงานของภาคการส่งออกยังคงมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว ยางพารา และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ดัชนีสินค้าคงคลังเดือนธันวาคม 2559 มีค่าเท่ากับ41.5 แสดงว่าสินค้าคงคลังมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการส่งออกต้องเร่งระบายสินค้า เพื่อให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ สินคาคงคลังที่ ลดลงได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้ สด แช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ยางพารา อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน อาหารสำเร็จรูป และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่มูลค่าสินค้าคงคลัง เพิ่มขึ้นได้แก่ กลุ่มสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และข้าว
ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ
- อัตราแลกเปลี่ยนไม่มีเสถียรภาพ
- ขาดแคลนแรงงานทีมีฝีมือและไร้ฝีมือ
- ขาดแคลนวัตถุดิบทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
- ความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ
- ต้นทุนวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น
ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้
- รักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
- พัฒนาแรงงานให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือ
- เร่งส่งเสริมการค้าและการตลาดต่างประเทศ
สำนักสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
โทร.0 2507 5799-80 โทรสาร 0 2507 5806, 0 2507 5825
www.price.moc.go.th Email: neworders@moc.go.th