ดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศเดือนตุลาคม 2560

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 27, 2017 14:05 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาส่งออก เดือนตุลาคม 2560 เทียบกับเดือนตุลาคม 2559 สูงขึ้นร้อยละ 4.0 (YoY) เป็นการปรับตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบเหล็ก ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และน้ำตาลทราย ดัชนีราคานำเข้า เดือนตุลาคม 2560 เทียบกับเดือนตุลาคม 2559 ปรับสูงขึ้นร้อยละ 4.4 (YoY) เป็นผลจากการปรับสูงขึ้นของหมวดสินค้าเชื้อเพลิงเป็นหลัก รองลงมาคือ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป หมวดสินค้าทุนและหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งปรับลดลง

ดัชนีราคาส่งออก เดือนตุลาคม 2560 เท่ากับ 98.4 เทียบกับเดือนตุลาคม 2559 (ปี 2555=100) สูงขึ้นร้อยละ 4.0 (YoY) ปรับสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ได้แก่ หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เช่น เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก

ผลิตภัณฑ์ยาง เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเหล็ก สูงขึ้นตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นจากยางพารา

ข้าว (หอมมะลิ) ไก่สดและกุ้งสด แช่เย็นแช่แข็ง หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นจากน้ำมันสำเร็จรูป ตามแนวโน้มราคา

น้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป

และน้ำตาลทราย สูงขึ้นตามการขยายตัวของตลาดอุตสาหกรรมอาหารและแนวโน้มคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

ดัชนีราคานำเข้า เดือนตุลาคม 2560 เท่ากับ 89.3 เทียบกับเดือนตุลาคม 2559 (ปี 2555=100) ปรับสูงขึ้นร้อยละ 4.4 (YoY) สินค้าสำคัญที่เป็นแรงหนุนให้ดัชนีราคานำเข้าปรับสูงขึ้นคือ หมวดสินค้าเชื้อเพลิงเป็นหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป เนื่องจากประเทศผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคปรับลดกำลังการผลิตลงอย่างต่อเนื่อง หมวดสินค้าทุน ได้แก่

เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หมวดสินค้า

วัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินแร่โลหะอื่นๆ เคมีภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช สัตว์น้ำสด

แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ทองคำ หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งปรับลดลง ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

ดัชนีราคาส่งออกของประเทศ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าส่งออกในรูปของดัชนี โดยใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาส่งออกที่ผู้ส่งออกในประเทศไทยได้ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ราคาส่งออกที่สำรวจเป็นราคา F.O.B (Free On Broad) ครอบคลุม 4 หมวดสินค้า ได้แก่ หมวดสินค้าเกษตรกรรม หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร หมวดสินค้าอุตสาหกรรม และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 764 รายการ สรุปได้ดังนี้

1. ดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนตุลาคม 2560 เท่ากับ 98.4 (ปีฐาน 2555 = 100) (เดือนกันยายน 2560 เท่ากับ 98.4) โดยดัชนีราคาส่งออกเดือนตุลาคม 2560 ในหมวดสินค้าเกษตรกรรม เท่ากับ 93.7 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เท่ากับ 108.9 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เท่ากับ 101.0 และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง เท่ากับ 68.0

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนตุลาคม 2560 เมื่อเทียบกับ

2.1 เทียบกับเดือนกันยายน 2560 (MoM) ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าส่งออกจำแนกตามรายหมวดสินค้า ดังนี้ หมวดสินค้าที่ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากผลจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ทำให้ตลาดน้ำมันเริ่มกลับเข้าสู่สมดุลประกอบกับแนวโน้มความต้องการในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋อง จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหาร และน้ำตาลทราย ราคาปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก จากปริมาณวัตถุดิบในการผลิตที่ลดลง ขณะที่หมวดสินค้าที่ราคาส่งออกปรับตัวลดลงคือ หมวดสินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ข้าว เนื่องจากผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ยางพารา ราคาลดลงเนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน ประกอบกับจีนหยุดการซื้อขายยางในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2560 เนื่องจากเป็นวันชาติจีน และกุ้ง ราคาลดลงจากสภาพอากาศแปรปรวน

ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ ส่งผลให้การส่งออกชะลอลง สำหรับหมวดสินค้าอุตสาหกรรม ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการเปลี่ยนแปลงของสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก

ผลิตภัณฑ์ยาง สูงขึ้นตามวัตถุดิบเกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน สำหรับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สูงขึ้นตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สูงขึ้นจากปริมาณการผลิตเหล็กที่ลดลง เนื่องจากรัฐบาลจีนมีมาตรการลดกำลังการผลิตส่วนเกินและป้องกันสิ่งแวดล้อม ขณะที่ความต้องการยังคงเพิ่มขึ้น สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ทองคำ ตามการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น

2.2 เทียบกับเดือนตุลาคม 2559 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 4.0 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าส่งออกจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

ดัชนีราคาส่งออกปรับสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ยางพารา ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งและแห้ง สินค้าปศุสัตว์ (ไก่) สินค้าประมง (กุ้ง ปลาหมึกปลา) หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป อาหารสัตว์เลี้ยง หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอ ทองคำ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ

2.3 เทียบเฉลี่ยกับเดือนมกราคม-ตุลาคม 2559 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 3.4 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

ดัชนีราคาส่งออกปรับสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าเกษตรกรรม ได้แก่ ยางพารา ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง กุ้งสด แช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่ น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่

เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ โดยสาเหตุหลักที่ราคาสินค้าส่งออกปรับสูงขึ้น เป็นผลจากความต้องการของตลาดต่างประเทศมีอย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น

ดัชนีราคานำเข้าของประเทศ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้านำเข้าที่ผู้นำเข้าในประเทศไทยได้จ่ายไปเพื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ราคานำเข้าที่สำรวจเป็นราคา C.I.F. (Cost, Insurance และ Freight) ครอบคลุม 5 หมวดสินค้า ได้แก่ หมวดสินค้าเชื้อเพลิง หมวดสินค้าทุน หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 775 รายการ สรุปได้ดังนี้

1. ดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนตุลาคม 2560 เท่ากับ 89.3 (ปีฐาน 2555 = 100) (เดือนกันยายน 2560 เท่ากับ 88.8) โดยดัชนีราคานำเข้าเดือนตุลาคม 2560 ในหมวดสินค้าเชื้อเพลิง เท่ากับ 61.3 หมวดสินค้าทุน เท่ากับ 101.0 หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เท่ากับ 94.7 หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เท่ากับ 101.8 และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เท่ากับ 93.2

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนตุลาคม 2560 เมื่อเทียบกับ

2.1 เทียบกับเดือนกันยายน 2560 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 0.6 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป จากแรงหนุนที่ผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางทำให้ส่งออกน้ำมันได้น้อยลง หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่มีนโยบายปรับลดกำลังการผลิตลง นอกจากนี้ ยังมีเคมีภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช ที่ดัชนีราคานำเข้าปรับสูงขึ้น ขณะที่หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าทุน ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ สำหรับหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ดัชนีราคานำเข้าไม่เปลี่ยนแปลง

2.2 เทียบกับเดือนตุลาคม 2559 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 4.4 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป

ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกกลุ่มโอเปค

มีมาตรการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ภาวะอุปทานล้นตลาด หมวดสินค้าทุน ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินแร่โลหะ เคมีภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ด้ายและเส้นใย ทองคำ หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เครื่องสำอาง ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งปรับลดลง ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

2.3 เทียบเฉลี่ยกับเดือนมกราคม-ตุลาคม 2559 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 5.3 โดยมีร้อยละการเปลี่ยนแปลงจำแนกรายหมวดสินค้า ดังนี้

หมวดสินค้าที่ดัชนีราคานำเข้าปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป

ก๊าซธรรมชาติปิโตรเลียม ถ่านหิน และเชื้อเพลิงอื่นๆ หมวดสินค้าทุน ได้แก่ เครื่องจักรกล/ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ

ส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการทดสอบ และผลิตภัณฑ์โลหะ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ สินแร่โลหะ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ทองคำ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช สัตว์น้ำสด แช่เย็นแช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ด้ายและเส้นใย หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ขณะที่ดัชนีราคานำเข้า หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งปรับลดลงเล็กน้อย

ทั้งนี้ ภาพรวมของราคาสินค้านำเข้าสำคัญที่ปรับตัวสูงขึ้นมาจากปัจจัยการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าในตลาดโลก โดยสินค้าที่เคยได้รับแรงกดดันจากปัญหาภาวะอุปทานส่วนเกินคลี่คลายลง อาทิ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ตามมาตรการปรับลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคเพื่อแก้ไขปัญหาอุปทานน้ำมันล้นตลาดและรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันได้มีการปรับราคาสูงขึ้นด้วย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ สำหรับเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช ปรับราคาสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้ในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่จีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตมีนโยบายการลดกำลังการผลิตส่วนเกิน และปรับปรุงคุณภาพสินค้าควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดี อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของดัชนีราคานำเข้าเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าหลักคือ สินค้าเชื้อเพลิงและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันดิบยังมีความผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลก

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2507 7000 โทรสาร 0 2507 5825


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ