ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือน ธันวาคม 2561 และปี 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 2, 2019 14:15 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2561 เท่ากับ 101.73 เมื่อเทียบกับ

          ระยะเวลา                         การเปลี่ยนแปลง     ร้อยละ
          1. เดือนพฤศจิกายน 2561 (MoM)           ลดลง         -0.65
          2. เดือนธันวาคม 2560 (YoY)             สูงขึ้น          0.36
          3. เฉลี่ยปี 2561 / ปี 2560 (AoA)         สูงขึ้น          1.07

ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนธันวาคม 2561 เทียบกับเดือนธันวาคม 2560 สูงขึ้น 0.36 (YoY) สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (เดือนพฤศจิกายน 2561 สูงขึ้น 0.94) โดยมีหมวดพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว ซึ่งปรับลดลงร้อยละ -1.24 ขณะที่หมวดอาหารสดสูงขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.11 โดยเฉพาะข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 0.68 (YoY) เฉลี่ยทั้งปี 2561 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวร้อยละ 1.07 (AoA) เป็นอัตราที่สูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ สอดคล้องกับตัวชี้วัดเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้ง GDP การบริโภคภาคเอกชน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงอัตราค่าจ้างเฉลี่ย ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวร้อยละ 0.71 (AoA)

ทั้งนี้ เงินเฟ้อของปี 2561 ดังกล่าว อยู่ในกรอบคาดการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ (ร้อยละ 0.8-1.6) สำหรับปี 2562 กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวระหว่างร้อยละ 0.7 - 1.7 (ค่ากลางร้อยละ 1.2) ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2561

1. การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำคัญ ที่ส่งผลให้เงินเฟ้อเดือนธันวาคมปี 2561 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ -0.65 (MoM) (พฤศจิกายน 2561 ลดลงร้อยละ -0.22) มีรายละเอียด ดังนี้

หมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ -0.81 ตามการลดลงของกลุ่มพลังงานเป็นสำคัญที่ลดลงร้อยละ -4.41 โดยหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลงร้อยละ -2.20 ตามการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท โดยเฉพาะ น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ 91 95 E20 และ E85 นอกจากนี้ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ลดลงร้อยละ -0.02 ตามการลดลงของเสื้อผ้าและรองเท้าของบุรุษ/สตรี ขณะที่หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.09 อาทิ แชมพู ยาสีฟัน น้ำหอม แป้งทาผิวกาย หมวดเคหสถาน ร้อยละ 0.03 ตามการสูงขึ้นของค่าเช่าบ้าน น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ซักผ้า (น้ำยาซักแห้ง) น้ำยาล้างจาน และหมวดการบันเทิง การอ่าน และการศึกษา สูงขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.04 สำหรับหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ดัชนีราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง

หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ -0.36 จากการลดลงของกลุ่มอาหารสด ร้อยละ -0.85 โดยเฉพาะหมวดผักและผลไม้ ลดลงร้อยละ -2.95 ตามการลดลงของผักสดร้อยละ -5.81 อาทิ ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักชี เนื่องจากสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ส่งผลให้พืชผักหลายชนิดออกพร้อมกันในปริมาณมาก ผลไม้สด ลดลงร้อยละ -0.81 อาทิ ส้มเขียวหวาน มะละกอ กล้วยน้ำว้า นอกจากนี้ เครื่องประกอบอาหาร ลดลงร้อยละ -0.32 ตามการลดลงของน้ำมันพืช ซีอิ๊ว น้ำปลา ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลดลงร้อยละ -0.15 จากการลดลงของ ไข่ไก่ ไข่เป็ด ครีมเทียม ขณะที่ หมวดข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 0.09 หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.07 หมวดอาหารบริโภค-ในบ้าน และนอกบ้าน สูงขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.02 และ 0.04 ตามลำดับ สำหรับหมวดเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ดัชนีราคาโดยเฉลี่ย ไม่เปลี่ยนแปลง

2. เทียบเดือนธันวาคม 2560 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 0.36 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้

หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.90 โดยเฉพาะหมวดข้าวแป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 4.58 ตามการสูงขึ้นของข้าวสารเจ้า ขนมปังปอนด์ ขนมอบ เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.06 (น้ำพริกแกง ซอสหอยนางรม กะปิ) เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ร้อยละ 1.41 (เนื้อสุกร ปลาทู ปลาหมึกกล้วย) ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 1.35 (นมผง นมสด ไข่ไก่) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.39 (กาแฟและชาสำเร็จรูปพร้อมดื่ม น้ำหวาน น้ำอัดลม) อาหารบริโภค-นอกบ้าน และในบ้าน ร้อยละ 0.93 และ 1.98 ตามลำดับ (ข้าวราดแกง อาหารเช้า กับข้าวสำเร็จรูป) ขณะที่หมวดผักและผลไม้ ลดลงร้อยละ -4.96 โดยผักสด ลดลงร้อยละ -4.08 และผลไม้สด ลดลงร้อยละ -2.86 เนื่องจากสภาพอากาศในปีนี้เหมาะต่อการเจริญเติบโตของสินค้าเกษตรหลายชนิด ส่งผลให้มีผลผลิตปริมาณมาก

หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.06 ตามการสูงขึ้นของหมวดเคหสถาน ร้อยละ 0.58 (ค่าเช่าบ้าน ก๊าซหุงต้ม ผงซักฟอก ค่าแรงช่างทาสี) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ร้อยละ 0.55 (ค่าแต่งผมชายและสตรี ยาแก้ไข้หวัด และผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว) หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ ร้อยละ 0.29 นอกจากนี้ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า และหมวดยาสูบ เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.26 และ 0.19 ตามลำดับ ขณะที่หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ลดลงร้อยละ -0.65 โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ลดลงร้อยละ -2.12 จากการลดลงของน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท และหมวดการสื่อสาร ร้อยละ -0.06

3. เฉลี่ยปี 2561 เทียบกับ ปี 2560 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 1.07 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้

หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.40 ตามการสูงขึ้นของข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 2.61 โดยเฉพาะข้าวสารเจ้า ขนมอบ ขนมปังปอนด์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.47 ตามการสูงขึ้นของชาและกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม น้ำหวาน อาหารบริโภค-ในบ้าน และนอกบ้าน ร้อยละ 1.10 และ 1.41 ตามลำดับ อาทิ กับข้าวสำเร็จรูป อาหารตามสั่ง และอาหารเช้า เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 0.39 ขณะผักสด และผลไม้สด ลดลงที่ร้อยละ -1.04 และ -1.97 ตามลำดับ ส่งผลให้หมวดผักและผลไม้ ลดลงร้อยละ -2.95 (ขึ้นฉ่าย ผักชี ผักคะน้า กล้วยน้ำว้า มะม่วง สับปะรด) นอกจากนี้ เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ ลดลงร้อยละ -0.55 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ลดลงร้อยละ -0.32

หมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 1.44 จากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร ร้อยละ 2.31 ตามการสูงขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิงร้อยละ 6.85 และค่าโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 0.56 หมวดเคหสถาน ร้อยละ 1.04 (ก๊าซหุงต้ม ค่ากระแสไฟฟ้าและค่าแรงช่างไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน) หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 4.27 (บุหรี่ เบียร์ ไวน์ สุรา) นอกจากนี้ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้นร้อยละ 0.27 หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล สูงขึ้นร้อยละ 0.52 หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ สูงขึ้นร้อยละ 0.38 ขณะที่หมวดการสื่อสาร ลดลงร้อยละ -0.06

สถานการณ์และปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อเงินเฟ้อ

อุปสงค์ภาคครัวเรือนเริ่มฟื้นตัว ตามผลผลิตและรายได้เกษตรกรที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ปี 2561 อาจส่งผลดีต่อกำลังซื้อในประเทศ การใช้จ่ายภาครัฐในปีงบประมาณ 2561 ช่วงครึ่งปีหลังมีมากขึ้น

การส่งออกที่มีการขยายตัวเป็นลำดับจากการฟื้นตัวของการค้าโลก รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของคู่ค้าสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก แนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนตัว

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแม้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังมีความผันผวน

การลงทุนภาครัฐอาจมีขั้นตอนที่อาจไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนทั้งหมด

ที่มา: กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

โทรศัพท์ 02-5076554 โทรสาร 02-5075806

http://www.price.moc.go.th


แท็ก ดัชนีราคา  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ