ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนตุลาคม 2562 เท่ากับ 104.7 เทียบกับเดือนตุลาคม 2561 ลดลงร้อยละ 3.1 (YoY) ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า (เดือนกันยายน 2562 ลดลงร้อยละ 2.8) โดยมีปัจจัยสำคัญจากการลดลงของดัชนีราคาหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก (ร้อยละ 16.7) หมวดซีเมนต์ (ร้อยละ 0.1) และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ (ร้อยละ 0.9) สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดด้านอุปสงค์ อาทิ ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ กำลังการผลิตในหมวดอุปกรณ์ก่อสร้าง และปริมาณการจำหน่ายและราคาเหล็กในประเทศ เป็นต้น ในขณะที่หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต และหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ปรับตัวสูงขึ้นตามราคานำเข้าและสถานการณ์การผลิต ชี้ว่าราคาวัสดุก่อสร้างยังคงเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ด้านอุปทานและอุปสงค์ในประเทศ และราคานำเข้า คาดว่า สถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างในช่วงที่เหลือของปีน่าจะยังคงลดลงตามปัจจัยด้านอุปทานและอุปสงค์ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยบวกจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน และถนนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม การปรับลดค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ภาคการก่อสร้างปรับตัวดีขึ้น
1. เทียบกับเดือนตุลาคม 2561 (YoY) ลดลงร้อยละ 3.1 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้
หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 11.2 ได้แก่ ไม้พื้น ไม้ฝา ไม้คาน ไม้โครงคร่าว ไม้แบบ วงกบประตู-หน้าต่าง บานประตู จากไม้นำเข้าราคาสูงขึ้น
หมวดซีเมนต์ ลดลงร้อยละ 0.1 ได้แก่ ปูนซีเมนต์ผสม ซีทไพล์คอนกรีต จากความต้องการลดลง สอดคล้องกับยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศหดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน
หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 1.4 ได้แก่ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง คอนกรีตบล็อกก่อผนัง-ปูพื้น คอนกรีตผสมเสร็จ ขอบคันคอนกรีต จากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการผลิต
หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 16.7 ได้แก่ เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ลวดผูกเหล็ก ท่อเหล็ก เหล็กแผ่นเรียบดำ ตะแกรงเหล็กสำเร็จรูป และตะปู เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกปรับลดลงและราคาวัตถุดิบมีการปรับตัวลงจากปีก่อน ประกอบกับความต้องการใช้ในประเทศลดลง สะท้อนจากยอดขายเหล็กในประเทศที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8
หมวดกระเบื้อง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.2 คือ ซิลิโคน ต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบลดลงจากการแข็งค่าของเงินบาท
หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 0.3 ได้แก่ ฝักบัวอาบน้ำ ราวจับสแตนเลส จากการปรับส่วนลดเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย
หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 0.1 คือ ประตูน้ำ
หมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ลดลงร้อยละ 0.9 ได้แก่ อลูมิเนียมแผ่น และยางมะตอยตามการลดลงของราคาปิโตรเลียม
2. เทียบกับเดือนกันยายน (MoM) ลดลงร้อยละ 1.1 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้
หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 5.1 ได้แก่ เหล็กเส้นกลม ผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ท่อเหล็ก เหล็กแผ่นเรียบดำ ซีทไพล์เหล็ก มีการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศจำนวนมาก ประกอบกับผู้ประกอบการในประเทศมีการแข่งขันกันสูง
หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต ลดลงร้อยละ 0.3 คือ ซีทไพล์คอนกรีตปรับราคาลดลงตามลวดแรงดึงสูง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนทำให้การก่อสร้างชะลอตัว
หมวดสุขภัณฑ์ สูงขึ้นร้อยละ 0.1 คือ ที่ปัสสาวะเซรามิก
หมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ สูงขึ้นร้อยละ 0.2 คือ ยางมะตอย ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ตามช่วงไฮซีชั่นของงานซ่อม-สร้างถนน และคาดว่าจะมีกำลังซื้อเข้ามาต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/2562 ต่อเนื่องปลายไตรมาส 1/2563
3. เทียบกับเดือนมกราคม-ตุลาคม 2561 (AoA) ลดลงร้อยละ 1.0 โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้
หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 10.7 ได้แก่ ไม้พื้น ไม้ฝา ไม้คาน ไม้โครงคร่าว ไม้แบบ วงกบประตู-หน้าต่าง บานประตู จากไม้นำเข้าราคาสูงขึ้น
หมวดซีเมนต์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 2.0 ได้แก่ คอนกรีตบล็อก คอนกรีตผสมเสร็จ คอนกรีตหยาบ ซีทไพล์ คอนกรีต ขอบคันคอนกรีต
หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 8.4 ได้แก่ เหล็กเส้นกลมผิวเรียบ-ผิวข้ออ้อย เหล็กตัวซี เหล็กฉาก เหล็กรางน้ำ ลวดผูกเหล็ก ท่อเหล็ก เหล็กแผ่นเรียบดำ ตะแกรงเหล็กสำเร็จรูป ตะปู
หมวดกระเบื้อง สูงขึ้นร้อยละ 1.7 ได้แก่ กระเบื้องเคลือบปูพื้น-บุผนัง กระเบื้องยาง PVC ปูพื้น กระเบื้องแกรนิต
หมวดวัสดุฉาบผิว สูงขึ้นร้อยละ 0.1 ได้แก่ สีเคลือบน้ำมัน สีรองพื้นปูน ซิลิโคน
หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 0.7 ได้แก่ อ่างล้างหน้า ที่ปัสสาวะ กระจกเงา ที่ใส่สบู่ ราวแขวนผ้าติดผนัง
หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ลดลงร้อยละ 0.6 ได้แก่ ท่อร้อยสายไฟและสายโทรศัพท์พีวีซี ท่อพีวีซี และอุปกรณ์ ท่อระบายน้ำพีวีซี
หมวดวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ลดลงร้อยละ 0.5 ได้แก่ หินคลุก หินย่อย อิฐมอญ อิฐโปร่ง อลูมิเนียมแผ่นเรียบ ยางมะตอย
ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์