ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศเดือนมิถุนายน 2563 และระยะ 6 เดือนแรกของปี 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 3, 2020 10:04 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA : Classification of Products by Activity) เดือนมิถุนายน 2563 (ปี 2553 = 100) เท่ากับ 98.9 เทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 ลดลงร้อยละ 3.1 (YoY) เป็นผลจากหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.8 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์ยาง หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 19.2 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบและก๊าซธรรมชาติ โดยสินค้าเชื้อเพลิงและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับลดลงตามตลาดโลกและต้นทุนวัตถุดิบ หมวดผลผลิตเกษตรกรรม ลดลงร้อยละ 0.9 จากสินค้าสำคัญ อาทิ หัวมันสำปะหลัง ยางพารา พืชผัก และสุกรมีชีวิต เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความต้องการชะลอตัว ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing) พบว่า หมวดสินค้าสำเร็จรูป สินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) และสินค้าทุน หดตัวร้อยละ 1.0 7.5 และ5.0 ตามลำดับ โดยมีสินค้าสำคัญในห่วงโซ่อุปทานที่ราคาปรับลดลงตามวัตถุดิบ ได้แก่ น้ำยางข้น/ยางแผ่นดิบ –ยางแผ่นรมควัน/ยางแท่ง มันสำปะหลัง –แป้งมันสำปะหลัง/ มันเส้น/มันอัดเม็ด จากภาวะการค้าชะลอตัว สำหรับสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือก –ข้าวสารเจ้า/ข้าวนึ่ง/ปลายข้าว -แป้งข้าวเจ้า ตามผลผลิตที่ลดลงจากภาวะภัยแล้ง และปาล์มสด –น้ำมันปาล์มดิบ- น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ในประเทศ

1. เทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 (YoY) ลดลงร้อยละ 3.1 โดยหมวดผลผลิตเกษตรกรรม ลดลงร้อยละ 0.9 จากสินค้าสำคัญ กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ หัวมันสำปะหลังและยางพารา ราคาลดลงเนื่องจากความต้องการของตลาดชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ยังคงซบเซาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พืชผัก (มะนาว มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักกาดหัว พริกชี้ฟ้าสด แตงร้าน มะระจีน) ผลไม้ (มะม่วง มังคุด ส้มเขียวหวาน ทุเรียน เงาะ ลำไย มะละกอ) และกลุ่มสัตว์มีชีวิต ได้แก่ สุกรมีชีวิต ไข่ไก่ และไข่เป็ด เนื่องจากภาวะการค้าและความต้องการบริโภคชะลอตัวจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ร้านค้าและสถานประกอบการปิดชั่วคราว สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว และอ้อย มีปริมาณผลผลิตลดลงเนื่องจากภาวะภัยแล้ง ผลปาล์มสด จากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นตามมาตรการดูดซับอุปทานส่วนเกินน้ำมันปาล์มดิบผ่านกลไกสนับสนุนการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B10 ในประเทศ ไก่มีชีวิต ตามความต้องการบริโภคที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว ปลาน้ำจืด (ปลาตะเพียน ปลานิล) ปลาทะเล (ปลาทูสด ปลาลัง ปลาจะระเม็ด) กุ้งแวนนาไม ปลาหมึกกล้วย และหอยนางรม จากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยเนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนและบางพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 19.2 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.8 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 น้ำมันเตา น้ำมันเครื่องบิน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)) กลุ่มเคมีภัณฑ์ (โซดาไฟ เม็ดพลาสติก) กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก (ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง) กลุ่มโลหะขั้นมูลฐานและผลิตภัณฑ์ (เหล็กแท่ง เหล็กแผ่น เหล็กเส้นและเหล็กฉาก) กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ (กระดาษพิมพ์เขียน เยื่อกระดาษ) กลุ่มเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (สายไฟ สายเคเบิล แผงวงจรไฟฟ้า) ซึ่งราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลกและราคาวัตถุดิบที่เกี่ยวเนื่อง สำหรับกลุ่มสิ่งทอ (เส้นใยสังเคราะห์ ด้ายฝ้าย) จากราคาวัตถุดิบที่ลดลงและการปรับราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย และส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า

2. เทียบกับเดือนพฤษภาคม 2563 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 0.8 โดยหมวดผลผลิตเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 1.2 สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากบางพื้นที่เพาะปลูกที่ประสบปัญหาภัยแล้ง มะพร้าวผล ปาล์มสด ยางพารา (น้ำยางข้น ยางแผ่นดิบ เศษยาง)เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้ความต้องการบริโภคและใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น พืชผัก (แตงกวา มะเขือ พริกสด กะหล่ำปลี ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี ผักกาดหัว ผักขึ้นฉ่าย กะหล่ำดอก) ผลไม้ (กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า สับปะรดโรงงาน เงาะ มะละกอ กล้วยไข่) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จากสภาพอากาศร้อน ประกอบกับปริมาณน้ำบางพื้นที่ไม่เพียงพอ กลุ่มสัตว์มีชีวิต ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลให้การบริโภคในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ ได้แก่ กุ้งแวนนาไม และปลาหมึกกล้วย เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้ผลผลิตลดลง สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า มันสำปะหลังสด เนื่องจากความต้องการตลาดยังชะลอตัว และไข่ไก่ เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความต้องการบริโภคชะลอตัว โดยเฉพาะจากการปิดภาคเรียน

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 2.7 สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว (คอนเดนเสท) และแร่ (ตะกั่ว ดีบุก) ตามราคาตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.8 สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด และยางมะตอย ตามราคาตลาดโลก เนื่องจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร กลุ่มยานพาหนะและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์นั่งต่ำกว่า 1,800 ซีซี ราคาสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์บางชิ้นของรถรุ่นเดิม กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง จากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น และถุงมือยาง จากความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อสุขอนามัยที่ดีสำหรับป้องกันและลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษและสิ่งพิมพ์ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น และหนังสือแบบเรียน จากการผลิตสินค้าปริมาณน้อยทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

3. เฉลี่ย 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA) ลดลงร้อยละ 2.3 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.4 จากการลดลงของราคาสินค้า กลุ่มเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ แผงวงจรไฟฟ้า สายเคเบิล และสายไฟ กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 และน้ำมันเตา กลุ่มเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ และปุ๋ยเคมีผสม กลุ่มโลหะขั้นมูลฐานและผลิตภัณฑ์โลหะ ได้แก่ เหล็กแผ่น เหล็กแท่ง เหล็กเส้น และเหล็กฉาก กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ขวดพลาสติก และถุงพลาสติก กลุ่มสิ่งทอและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ได้แก่ เส้นใยสังเคราะห์ ด้ายฝ้าย และด้ายใยสังเคราะห์ผสมฝ้าย กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และเยื่อกระดาษ กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา และไม้อัด

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 11.8 จากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มลิกไนต์ ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ

หมวดผลผลิตเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 1.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ผลปาล์มสด ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว สับปะรดโรงงาน/บริโภค มะพร้าวผล กล้วยน้ำว้า และชมพู่ กลุ่มสัตว์มีชีวิตและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต และไข่ไก่

4. ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ลดลงร้อยละ 4.1 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 3.8 จากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ สายเคเบิล แผงวงจรไฟฟ้า และสายไฟ กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 น้ำมันเตา น้ำมันเครื่องบิน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) กลุ่มเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ และปุ๋ยเคมีผสม กลุ่มโลหะขั้นมูลฐานและผลิตภัณฑ์โลหะ ได้แก่ เหล็กแผ่น เหล็กแท่ง เหล็กเส้น และเหล็กฉาก กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ขวดพลาสติก และถุงพลาสติก กลุ่มสิ่งทอและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ได้แก่ เส้นใยสังเคราะห์ ด้ายฝ้าย และด้ายใยสังเคราะห์ผสมฝ้าย กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และเยื่อกระดาษ กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา และไม้อัด

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 19.8 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และแร่ (ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก)

หมวดผลผลิตเกษตรกรรม ลดลงร้อยละ 1.5 จากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ยางแผ่นดิบ น้ำยางข้น เศษยาง หัวมันสำปะหลังสด มะนาว กะหล่ำปลี ผักคะน้า พริกสด ข้าวโพดฝักอ่อน มะม่วง ส้มเขียวหวาน ทุเรียน ลำไย และมะขาม

5. ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ลดลงร้อยละ 2.5 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.3 จากการลดลงของราคาสินค้า กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 น้ำมันเตา น้ำมันเครื่องบิน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) กลุ่มเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก คลอรีน และโซดาไฟ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และขวดพลาสติก กลุ่มผลิตภัณฑ์อโลหะ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และกล่องกระดาษ กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 15.9 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว (คอนเดนเสท) และแร่ (ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก)

หมวดผลผลิตเกษตรกรรม ไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการเปลี่ยนแปลงราคาของกลุ่มสินค้า โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว อ้อย มะนาว ถั่วฝักยาว ผักชี กะหล่ำดอก และมะพร้าวอ่อน สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง กลุ่มสัตว์มีชีวิตและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ ได้แก่ กุ้งแวนนาไม ปลาหมึกกล้วย หอยแครง ปลากะพง ปลาอินทรี และปูม้า

6. แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิตไตรมาสที่ 3 ปี 2563

ดัชนีราคาผู้ผลิตในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยเดิม ได้แก่ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด –19 การทรงตัวของราคาน้ำมันในระดับต่ำ และการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ยังมีแนวโน้มหดตัว เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งจากห่วงโซ่อุปทานที่ขาดช่วงจากการปิดประเทศและการปิดกิจการชั่วคราว และอุปสงค์ที่ลดลงอย่างมากทั้งจากการส่งออกและการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังคงไม่คลี่คลายในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรยังคงมีปัจจัยบวกจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่ออุปทาน และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเนื้อไก่ จากการส่งออกเพื่อทดแทนวัตถุดิบที่ขาดหายในตลาดต่างประเทศจากโรคระบาดในสุกร และความต้องการกักตุนสินค้าอาหารที่ยังคงมีอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ดัชนีราคาผู้ผลิตค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 และน่าจะเห็นทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงต้นปี 2564

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ