ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศเดือน พฤศจิกายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 4, 2020 10:57 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA : Classification of Products by Activity) เดือนพฤศจิกายน 2563 (ปี 2553 = 100) เท่ากับ 99.5 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 ลดลงร้อยละ 0.9 (YoY) เป็นผลจากหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 1.1 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ สิ่งทอและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ซึ่งมีปัจจัยหลักจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ทำให้ความต้องการสินค้าชะลอตัว และต้นทุนวัตถุดิบมีการปรับราคาลดลง และหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 23.1 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ ขณะที่หมวดผลผลิตเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 6.7 จากสินค้าสำคัญ อาทิ ผลปาล์มสด และยางพารา จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ช่วยให้ราคาพืชเกษตรสำคัญปรับตัวสูงขึ้น ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing) พบว่า หมวดสินค้าสำเร็จรูป ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 0.5 ขณะที่สินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) และสินค้าวัตถุดิบ หดตัวร้อยละ 3.5 และ 2.0 ตามลำดับ โดยมีสินค้าสำคัญในห่วงโซ่อุปทานที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามวัตถุดิบ ได้แก่ อ้อย ? น้ำตาลทรายดิบ - น้ำตาลทรายขาว ตามผลผลิตที่ลดลงจากภาวะภัยแล้ง น้ำยางข้น/ยางแผ่นดิบ -- ยางแผ่นรมควัน/ยางแท่ง และผลปาล์มสด ?น้ำมันปาล์มดิบ - น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ จากความต้องการเพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรการสนับสนุนการใช้ในประเทศ

1. เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2562 (YoY) ลดลงร้อยละ 0.9 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 1.1 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา) จากความต้องการใช้ที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ (กระดาษพิมพ์เขียน เยื่อกระดาษ กระดาษคร๊าฟ กล่องกระดาษ) กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ (ไม้ยางพารา) เนื่องจากในปีนี้คำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 เป็นต้นมา กลุ่มสิ่งทอ (สิ่งทอจากใยสังเคราะห์ ทั้งเส้นใย ด้ายและผ้าทอ) กลุ่มเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และอิเล็กทรอนิกส์ (สายเคเบิล แผงวงจรไฟฟ้า) ตามราคาวัตถุดิบที่ลดลง

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 23.1 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ ราคาเป็นไปตามภาวะตลาดโลก ซึ่งได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

หมวดผลผลิตเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 6.7 จากสินค้าสำคัญ กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ผลปาล์มสด เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนของนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงาน ซึ่งเป็นการระบายสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ยางพารา (น้ำยางข้น ยางแผ่นดิบ เศษยาง) เนื่องจากความต้องการใช้ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนของมาตรการภาครัฐ ประกอบกับมีการขยายตัวของการผลิตถุงมือยางและยางยืด มะพร้าวผล อ้อย พืชผัก (มะนาว มะเขือ พริกสด กะหล่ำปลี ผักคะน้า ผักกาดขาว ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ต้นหอม ผักขึ้นฉ่าย ผักกวางตุ้ง) และผลไม้ (องุ่น กล้วยน้ำว้า สับปะรดโรงงาน ฝรั่ง ชมพู่) เนื่องจากผลผลิตลดลงจากผลกระทบของภาวะภัยแล้งในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ความต้องการของตลาดมีอย่างต่อเนื่อง กลุ่มสัตว์มีชีวิตและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุกรมีชีวิต ไข่ไก่และไข่เป็ด กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาทูสด ปลาลัง ปลาหมึกกล้วย และกุ้งแวนนาไม เนื่องจากความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศมีอย่างต่อเนื่อง

2. เทียบกับเดือนตุลาคม 2563 (MoM) ลดลงร้อยละ 0.5 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 0.2 สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ ได้แก่ เนื้อสุกร จากความต้องการบริโภคที่ลดลง น้ำสับปะรด สับปะรดกระป๋อง ราคาวัตถุดิบลดลงและมีการปรับราคาลงในการทำสัญญารอบใหม่ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ข้าวนึ่ง รำข้าวขาว กากรำข้าว เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวทำให้มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดมาก ประกอบกับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา ผลิตได้มากขึ้นเนื่องจากปริมาณฝนในแหล่งผลิตลดลง และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ ราคาเคลื่อนไหวตามภาวะตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาสินค้าบางกลุ่มเคลื่อนไหวตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ได้แก่ กลุ่มสิ่งทอและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ (ผ้าฝ้าย ผ้าดิบ ผ้าใยสังเคราะห์ กางเกงสตรี กางเกงชั้นในบุรุษ/สตรี) และกลุ่มเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) ขณะที่สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เนื่องจากมีแรงหนุนจากความคืบหน้าของการผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสโควิด-19 ช่วยลดความกังวลของตลาดน้ำมัน ประกอบกับมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และยังมีแนวโน้มจะขยายเวลาต่อเนื่องไปอีก 3-6 เดือน และสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เคมี โดยเฉพาะเม็ดพลาสติก เนื่องจากเป็นสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน

หมวดผลผลิตเกษตรกรรม ลดลงร้อยละ 1.2 สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับความต้องการของตลาดชะลอตัวส่งผลให้ราคาปรับลดลง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ยังทรงตัว ผลไม้ (กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม สับปะรดโรงงาน ส้มโอ) กลุ่มสัตว์มีชีวิตและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาช่อน ปลาตะเพียน และปลานิล เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับการบริโภคชะลอตัว และกุ้งแวนนาไม เนื่องจากความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศชะลอตัว สำหรับสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ หัวมันสำปะหลังสด เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลผลผลิตยังออกสู่ตลาดไม่มาก ขณะที่ความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น ผลปาล์มสด เนื่องจากผลผลิตลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ในการบริโภคและพลังงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มะพร้าวผล เนื่องจากผลผลิตลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคมีอย่างต่อเนื่อง ยางพารา (น้ำยางข้น ยางแผ่นดิบ เศษยาง) เนื่องจากผลผลิตลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ยางพาราทั้งภายในและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และพืชผัก (มะเขือ พริกสด ผักคะน้า ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ผักกวางตุ้ง แตงร้าน บวบ) เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 4.2 สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และคอนเดนเสท ตามราคาตลาดโลก

3. เฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค.- พ.ย.) ปี 2563 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA) ลดลงร้อยละ 1.9 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.0 จากการลดลงของราคาสินค้า กลุ่มเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ แผงวงจรไฟฟ้า สายเคเบิล และสายไฟ กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) กลุ่มเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ และปุ๋ยเคมีผสม กลุ่มโลหะขั้นมูลฐานและผลิตภัณฑ์โลหะ ได้แก่ เหล็กแผ่น เหล็กแท่ง เหล็กเส้น และเหล็กฉาก กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ขวดพลาสติก และถุงพลาสติก กลุ่มสิ่งทอและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ได้แก่ เส้นใยสังเคราะห์ ด้ายฝ้าย ผ้าเช็ดตัว เสื้อบุรุษ กางเกงบุรุษ และกางเกงสตรี กลุ่มเยื่อกระดาษ ผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และเยื่อกระดาษ กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา และไม้อัด

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 15.1 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ คอนเดนเสท และแร่โลหะ (ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก วุลแฟรม)

หมวดผลผลิตเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 3.0 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า กลุ่มผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ผลปาล์มสด ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว อ้อย สับปะรดโรงงาน/บริโภค มะพร้าวผล กล้วยน้ำว้า และชมพู่ กลุ่มสัตว์มีชีวิตและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต และไข่ไก่ และกลุ่มปลาและสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลานิล ปลาทูสด ปลาลัง และปลาหมึกกล้วย

4. แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนธันวาคม 2563

ดัชนีราคาผู้ผลิตยังคงมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากภาคอุตสาหกรรมหลายสาขาที่เริ่มฟื้นตัว อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เริ่มกลับมาผลิตใกล้เคียงปกติเป็นเดือนที่สอง อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เริ่มมีการส่งออกเป็นบวกต่อเนื่องและมีการเปิดตลาดใหม่ได้มากขึ้น อุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา และอุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจากราคาเหล็กโลกและราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน สับปะรด และผักสด ทำให้คาดว่าดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือนธันวาคม น่าจะอยู่ในระดับทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ ได้แก่ ความสำเร็จของวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด?19 การแพร่ระบาดระลอกที่สองของเชื้อไวรัสโควิด?19 ทิศทางการดำเนินนโยบายใหม่ของสหรัฐอเมริกา สถานการณ์ราคาน้ำมัน และสถานการณ์การเมืองของประเทศ

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ