ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนพฤษภาคม 2564 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 41.6 เทียบกับระดับ 43.5 ในเดือนก่อนหน้าเป็นการปรับตัวลดลงทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต ในทุกภาคและทุกอาชีพ ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวลดลงจากระดับ 36.4 มาอยู่ที่ระดับ 34.3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต พบว่า ปรับลดลงจากระดับ 48.2 มาอยู่ที่ระดับ 46.5 สาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19ระลอก 3 มียอดผู้ติดเชื้อรายวันจำนวนมาก รวมถึงความล่าช้าของการฉีดวัคซีนและการกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลากหลายรูปแบบ และการบริหารจัดการของภาครัฐ ก็มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ น่าจะช่วยให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในระยะต่อไปปรับตัวดีขึ้นตามลำดับได้
เมื่อพิจารณารายภูมิภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงในทุกภูมิภาค โดยภาคกลาง มีสัดส่วนการลดลงมากที่สุด ปรับตัวลดลงจากระดับ 44.2 มาอยู่ที่ระดับ 39.7 รองลงมาคือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล จากระดับ 41.5 มาอยู่ที่ระดับ 38.5 ภาคเหนือจากระดับ 43.5 มาอยู่ที่ระดับ 40.5 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19ระลอก 3 ที่มีการแพร่ระบาดกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคโดยเฉพาะภาคกลางและกรุงเทพฯ ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากระดับ 45.3 มาอยู่ที่ระดับ 43.5 และภาคใต้ จากระดับ 44.1 มาอยู่ที่ระดับ 42.7 เป็นการลดลงต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกสินค้าเกษตร ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงไม่เท่ากับกรุงเทพฯ และภาคกลาง
เมื่อพิจารณาจำแนกรายอาชีพ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาปรับลดลงจากจากระดับ 41.6 มาอยู่ที่ระดับ 37.1 ซึ่งมีสัดส่วนการปรับลดลงมากที่สุด กลุ่มไม่ได้ทำงานปรับลดลงจากระดับ 37.2 มาอยู่ที่ระดับ 36.9 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมั่นต่ำที่สุด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19มากที่สุด และมีความไม่มั่นคงในการดำรงชีพส่วนกลุ่มพนักงานของรัฐ จากระดับ 49.6 มาอยู่ที่ระดับ 47.4 กลุ่มผู้ประกอบการ จากระดับ 43.1 มาอยู่ที่ระดับ 41.2 กลุ่มพนักงานเอกชน จากระดับ 42.4 มาอยู่ที่ระดับ 40.6 กลุ่มเกษตรกร จากระดับ 44.3 มาอยู่ที่ระดับ 42.6 และกลุ่มรับจ้างอิสระ จากระดับ 41.0 มาอยู่ที่ระดับ 39.3
ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์