ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2564 เท่ากับ 102.25(ปีฐาน 2562=100)
เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงร้อยละ1. เดือนพฤศจิกายน2563 (YoY)สูงขึ้น2.71 2. เดือนตุลาคม 2564 (MoM) สูงขึ้น0.28 3.เฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค. -พ.ย.) ปี 2564
สูงขึ้น1.15 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA)Highlights อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนสูงขึ้นร้อยละ 2.71 (YoY)เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยมีปัจจัยหลักจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับสินค้าสำคัญในกลุ่มอาหารสดราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผักสด เนื่องจากปริมาณผลผลิตยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื้อสุกร มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ นอกจากนี้ สินค้าในกลุ่มเครื่องประกอบอาหาร โดยเฉพาะน้ำมันพืช ราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามราคาผลปาล์มสดที่สูงขึ้นจากความต้องการใช้ที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม สินค้าสำคัญหลายชนิดราคาลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอาทิ ข้าวสารเจ้า ไก่สด และผลไม้สด
เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ร้อยละ 0.29 เฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปี 2564 เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 1.15 (AoA) และเงินเฟ้อพื้นฐาน สูงขึ้นร้อยละ 0.23 (AoA)1. เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2563 สูงขึ้นร้อยละ 2.71(YoY)
โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้*หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 4.25 โดยมีสาเหตุหลักจากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารร้อยละ 11.73 จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 37.19 และค่าโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 0.61 หมวดการตรวจรักษา และบริการส่วนบุคคลจากการสูงขึ้นของราคาค่าแต่งผมชาย ครีมนวดผม ยาแก้ปวดลดไข้ ร้อยละ 0.40 และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์จากการสูงขึ้นของราคาบุหรี่และสุรา ร้อยละ 1.21 ในขณะที่มีสินค้าและบริการราคาลดลง ได้แก่ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าจากการลดลงของราคาเสื้อยืดสตรีและบุรุษ กางเกงขายาวบุรุษ ร้อยละ -0.23 หมวดเคหสถานจากการลดลงของราคาค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าเช่าบ้าน ร้อยละ -0.12 หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯจากการลดลงของค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาในทุกระดับชั้น ร้อยละ -0.98 และการสื่อสารลดลง ร้อยละ -0.08 *หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.43 โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำตามการสูงขึ้นของราคาเนื้อสุกร ปลาหมึกกล้วย กุ้งขาว ร้อยละ 0.24 กลุ่มผักสดจากการสูงขื้นของราคาผักกาดขาว ผักชีผักคะน้า ร้อยละ 12.69 กลุ่มเครื่องประกอบอาหารจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันพืช ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม ร้อยละ 6.21 กลุ่มอาหารบริโภคในบ้านจากการสูงขึ้นของราคากับข้าวสำเร็จรูป อาหารโทรสั่ง (delivery)ปลากระป๋องร้อยละ 0.44 และกลุ่มอาหารบริโภคนอกบ้านจากการสูงขึ้นของราคาอาหารเช้า อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง)และอาหารเย็น (อาหารตามสั่ง) ร้อยละ 0.35ในขณะที่มีสินค้าและราคาลดลง ได้แก่กลุ่มข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งจากการลดลงของราคาข้าวสารเจ้า และข้าวสารเหนียวร้อยละ -7.34 กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นมจากการลดลงของราคาไข่ไก่ นมผง นมถั่วเหลือง ร้อยละ -0.29 กลุ่มผลไม้สดจากการลดลงของราคาส้มเขียวหวาน ลองกอง ร้อยละ -2.85และกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จากการลดลงของราคาน้ำดื่ม กาแฟผงสำเร็จรูป ร้อยละ -0.30 เดือนพฤศจิกายน 2564
สนักงนนโยบยและยุทธศสตร์กรค (สนค.)2. เทียบกับเดือนตุลาคม 2564สูงขึ้นร้อยละ 0.28(MoM)โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้*หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.47 ตามการรวมทุกรายการ0.28 สูงขึ้นของสินค้าเกือบทุกกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง(ข้าวสารเจ้า ขนมปังปอนด์) ร้อยละ 0.11 กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ(เนื้อสุกร ไก่สด อาหารและเครื่องดื่มไม่มี.0.47
กุ้งขาว) ร้อยละ 1.11 กลุ่มผักสด(กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว) ร้อยละ 2.35 -อาหารสด0.74 กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร(น้ำมันพืช น้ำปลา กะทิสำเร็จรูป) ร้อยละ 1.35 กลุ่มอาหารบริโภคในบ้าน(อาหารโทรสั่ง (delivery) ข้าวแกง/ข้าวกล่อง)หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร.0.17
ร้อยละ 0.69 และกลุ่มอาหารบริโภคนอกบ้าน(อาหารเย็น (อาหารตามสั่ง)) เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า0.02 ร้อยละ 0.01ในขณะที่มีสินค้าราคาลดลง ได้แก่ กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม(นมสด ครีมเทียม) ร้อยละ -1.16 กลุ่มผลไม้สด(ส้มเขียวหวาน กล้วยน้ำว้าเคหสถาน0.08 กล้วยหอม) ร้อยละ -0.90กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์(กาแฟผงสำเร็จรูป การตรวจรักษาและบริการ.-0.08
*หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.17 ตามการสูงขึ้นของพาหนะการขนส่งและการ.0.34 สินค้าในหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร(น้ำมันเชื้อเพลิง) ร้อยละ 0.34 0.61 หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า(เสื้อยกทรง รองเท้าหุ้มส้นหนังสตรี) ร้อยละ 0.02 -พลังงาน
หมวดเคหสถาน(ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน) ร้อยละ 0.08 การบันเทิง การอ่าน การ.-0.04 และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์(บุหรี่เบียร์)ร้อยละ 0.57 ในขณะที่หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล(ยาสีฟัน แชมพู น้ำยายาสูบและเครื่องดื่มมี.0.57
ระงับกลิ่นกาย) ลดลงร้อยละ -0.08 หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน *0.09 (ค่าธรรมเนียมการศึกษา) ลดลงร้อยละ -0.04 ค่าโดยสารสาธารณะและการสื่อสาร ลดลงร้อยละ -0.05 และ -0.07 ตามลำดับ3. เฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค. -พ.ย.) ปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 1.15(AoA) โดยมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้*หมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 2.03 โดยมีปัจจัยหลักจากการสูงขึ้นของหมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารร้อยละ 7.65 รวมทุกรายการ1.15 ตามการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 24.43 เป็นสำคัญ หมวดการตรวจรักษา-0.21 และบริการส่วนบุคคล(ค่าแต่งผมชาย ค่าแต่งผมสตรี ครีมนวดผม) ร้อยละ 0.22 อาหารและเครื่องดื่มไม่มี.
หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์(บุหรี่ สุรา เบียร์) ร้อยละ 0.18 -อาหารสด-1.16 และ ค่าโดยสารสาธารณะ ร้อยละ 0.51 ในขณะที่มีสินค้าและบริการราคาลดลง ได้แก่ หมวดเคหสถาน(ค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ค่าเช่าบ้าน) ร้อยละ -1.86 หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร.2.03
หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า(เสื้อยืดสตรีและบุรุษ เสื้อเชิ้ต) ร้อยละ -0.27 เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า-0.27 หมวดการบันเทิงการอ่าน การศึกษาฯ(ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าทัศนาจรต่างประเทศ ค่าที่พักโรงแรม) ร้อยละ -0.40และการสื่อสาร ร้อยละ -0.02 เคหสถาน-1.86
*หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ -0.21 จากการการตรวจรักษาและบริการ.0.22 ลดลงของสินค้าในกลุ่มข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว)ร้อยละ -6.65 กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์(น้ำดื่ม กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟพาหนะการขนส่งและการ.7.65
(ร้อน/เย็น)) ร้อยละ -0.26 สำหรับสินค้าที่ราคาสูงขึ้นได้แก่ กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ด-พลังงานไก่ และสัตว์น้ำ(เนื้อสุกร กระดูกซี่โครงหมู ปลาหมึกกล้วย) ร้อยละ 0.71 11.49 การบันเทิง การอ่าน การ.-0.4
(กล้วยน้ำว้า องุ่น ทุเรียน) ร้อยละ 0.24กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร(น้ำมันพืช ยาสูบและเครื่องดื่มมี.0.18 ซีอิ๊ว กะปิ) ร้อยละ 4.12 กลุ่มอาหารบริโภคในบ้าน(กับข้าวสำเร็จรูป ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน *0.23 ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง/ข้าวกล่อง) ร้อยละ 0.39 และ กลุ่มอาหารบริโภคนอกบ้าน(อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) อาหารเช้า อาหารเย็น (อาหารตามสั่ง)) ร้อยละ 0.50 ส่วน กลุ่มผักสดราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง
รวมอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มภาค
การเปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)การเปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)การเปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)1. กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2.29 0.83 3.17 2. ภาคกลาง 3.01 0.86 4.42 3.ภาคเหนือ3.11 0.90 4.73 4. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.37 -0.67 4.73 5. ภาคใต้3.28 0.67 5.16 ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในทุกภาคขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาคใต้ยังคงขยายตัวในอัตราสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ที่ร้อยละ 3.28 ในขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขยายตัวต่ำที่สุด ที่ร้อยละ 2.29สำหรับภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขยายตัวร้อยละ 3.113.01และ 2.37ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาเป็นรายหมวด พบว่า หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มขยายตัวในทุกภูมิภาค จากการสูงขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภทเป็นสำคัญ ขณะหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเพียงภูมิภาคเดียวที่ราคาโดยเฉลี่ย ลดลงร้อยละ -0.67 จากกลุ่มข้าวเป็นสำคัญ เนื่องจากปริมาณข้าวฤดูกาลใหม่ออกมากและมีสัดส่วนการบริโภคมากกว่าภาคอื่น ๆ
เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันพืช โดยเฉพาะการสูงขึ้นของราคาผักสดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และบางพื้นที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการเพาะปลูก ผลผลิตยังโตไม่เต็มที่ ส่งผลให้ปริมาณเข้าตลาดน้อยรวมทั้งการสูงขึ้นของราคาเนื้อสุกร เนื่องมาจากการสูงขึ้นของอาหารสัตว์ที่สะสมมาหลายเดือน สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลงในทุกภาค ได้แก่ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผลไม้สด เป็นต้น
5. แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนธันวาคม 2564
เงินเฟ้อในเดือนธันวาคม 2564 :มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมาสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูงและมีทิศทางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและค่าขนส่ง ส่วนราคาสินค้าในกลุ่มอาหารมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการ ปริมาณผลผลิต ต้นทุนและวัตถุดิบ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลากหลายรูปแบบที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและการท่องเที่ยวซึ่งมีทิศทางที่ดีขึ้น จะส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการ และกระทบต่อเงินเฟ้อของไทยได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (Omicron) ที่สร้างความกังวลไปทั่วโลก ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.8-1.2(ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 1.0)ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง
ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์