ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA : Classification of Products by Activity) เดือนพฤศจิกายน 2564 (ปี 2558 = 100) เท่ากับ 106.1 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2563 สูงขึ้นร้อยละ 8.5 (YoY) เป็นผลจากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ประกอบด้วย หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 8.3 เนื่องจากราคาวัตถุดิบและราคาตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเป็นหลัก สำหรับกลุ่มสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ โลหะขั้นมูลฐาน และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ และหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 51.6 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และสินแร่โลหะ ตามภาวะตลาดโลก ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 0.2 เป็นผลจากสินค้าเกษตรกรรมเป็นสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก ไม้ผล มะพร้าว และสุกร/ไก่มีชีวิต เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อน ขณะที่ความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและส่งออกชะลอตัว
ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing) พบว่าดัชนีหมวดสินค้าสำเร็จรูป หมวดสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) และหมวดสินค้าวัตถุดิบ สูงขึ้นร้อยละ 3.3 17.4 และ 16.2 ตามลำดับ โดยมีสินค้าสำคัญในห่วงโซ่อุปทานที่ราคาปรับสูงขึ้นตามวัตถุดิบ ได้แก่ ผลปาล์มสด น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ และ มันสำปะหลังสด มันเส้น/มันอัดเม็ด/แป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากความต้องการของตลาดที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
1. เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2563 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 8.5 โดยหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 8.3 จากสินค้าสำคัญประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เนื่องจากราคาปรับตามตลาดโลก กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ กรดเกลือ ปุ๋ยเคมีผสม และยางสังเคราะห์ จากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้มีอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ น้ำตาลทราย และกากน้ำตาล เนื่องจากราคาปรับตามภาวะตลาดโลก น้ำมันปาล์ม จากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ประกอบกับมีมาตรการของภาครัฐช่วยกระตุ้นการใช้ในประเทศและส่งออกเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน มันเส้น แป้งมันสำปะหลัง และน้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ จากวัตถุดิบสินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) จากการปรับโครงสร้างต้นทุนสินค้าใหม่ กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กเส้น เหล็กลวด เหล็กรูปตัวซี และเหล็กฉาก จากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ เนื่องจากราคาปรับตามตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง ถุงพลาสติก ท่อ ข้อต่อ แผ่นฟิล์มพลาสติก และบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ จากความต้องการของตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์นั่ง และรถบรรทุกขนาดเล็ก จากราคาชิ้นส่วนนำเข้าปรับสูงขึ้น ประกอบกับมีการปรับรูปโฉมใหม่
หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 51.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มแร่ (แร่เหล็ก ดีบุก สังกะสี วุลแฟรม) ตามภาวะตลาดโลก
หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 0.2 จากการลดลงของสินค้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว กลุ่มไม้ผล ได้แก่ สับปะรด กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า และส้มเขียวหวาน กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ มะพร้าวผล เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปีก่อน จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในการเพาะปลูกและมีปริมาณน้ำเพียงพอ ขณะที่ความต้องการของตลาดชะลอตัว กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต เนื่องจากความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและส่งออกชะลอตัว สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ พืชผัก (ผักชี ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ถั่วฝักยาว ต้นหอม ผักขึ้นฉ่าย กะหล่ำปลี แตงกวา ผักกาดขาว ผักกาดหอม กะหล่ำดอก) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จากสภาพอากาศที่แปรปรวนและภาวะฝนตกชุกในหลายพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลให้พืชผักเสียหาย หัวมันสำปะหลังสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากความต้องการของตลาด เพื่อเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น ผลปาล์มสด เนื่องจากความต้องการใช้ด้านพลังงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน และยางพารา เนื่องจากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายางของภาครัฐ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ ปลาลัง ปลาทรายแดง ปลาสีกุน ปลาหมึก กุ้งแวนนาไม และหอยแครง เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากช่วงฤดูมรสุม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำประมง และการบริโภคชะลอตัว จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
2. เทียบกับเดือนตุลาคม 2564 (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 1.2 โดยหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 2.1 จากการสูงขึ้นของสินค้าสำคัญผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ผลปาล์มสด เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ขณะที่ความต้องการเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ยางพารา (น้ำยางสด ยางแผ่นดิบ เศษยาง) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จากภาวะฝนตกชุกในพื้นที่กรีดยางทางภาคใต้ มะพร้าวผล เนื่องจากความต้องการบริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ หัวมันสำปะหลังสด เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูกาล ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดยังไม่มากนัก ขณะที่ความต้องการของตลาดยังมีอย่างต่อเนื่อง พืชผัก (มะนาว ถั่วฝักยาว ต้นหอม กะหล่ำปลี ผักชี มะเขือ แตงกวา ผักคะน้า พริกสด ข้าวโพดฝักอ่อน ผักกวางตุ้ง มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักขึ้นฉ่าย ผักกาดหัว ฟักทอง มะระจีน แตงร้าน กะหล่ำดอก) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จากภาวะฝนตกชุกและน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลให้พืชผักเสียหาย กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ร้านอาหารและสถานประกอบการต่างๆ เริ่มทยอยเปิดให้บริการตามปกติ ผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ กุ้งแวนนาไม และปลาหมึกกล้วย เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง จากภาวะฝนตกชุก สำหรับสินค้าที่ราคาปรับลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว เนื่องจากผลผลิตฤดูกาลใหม่กำลังออกสู่ตลาด ประกอบกับปริมาณข้าวในสต็อกยังอยู่ในระดับสูง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และผลไม้บางชนิด อาทิ สับปะรดโรงงาน ส้มเขียวหวาน กล้วยไข่ และกล้วยน้ำว้า เป็นต้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการของตลาดชะลอตัว
หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 16.0 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้า ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และแร่ (แร่เหล็ก สังกะสี วุลแฟรม) ตามภาวะตลาดโลก
หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.6 จากการสูงขึ้นของสินค้าสำคัญ กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก จากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณสินค้าในตลาดโลกลดลง เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่หลายประเทศมีการหยุดผลิตชั่วคราวหรือชะลอการผลิตลง อาทิ ประเทศจีนมีมาตรการลดการใช้พลังงาน ไต้หวันมีการปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักร และสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากพายุ โซดาไฟ เนื่องจากมีความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพิ่มขึ้น และราคาปรับสูงขึ้นตามการอ้างอิงกับราคาตลาดต่างประเทศ ปุ๋ยเคมีผสม และกรดกำมะถัน เนื่องจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันดีเซล และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ราคาเคลื่อนไหวตามภาวะตลาดโลก เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ กิจกรรมการเดินทางทั่วโลกเพิ่มขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ความต้องการใช้น้ำมันทดแทนก๊าซธรรมชาติที่ราคาอยู่ในระดับสูง รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว ขณะที่ประเทศกลุ่มโอเปกพลัสยังคงกำลังการผลิตไว้ในระดับเดิม กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ไก่สด เนื้อสุกร น้ำมันปาล์ม มันเส้น แป้งมันสำปะหลัง และแป้งสาลี เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น น้ำตาลทราย ราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ ราคาปรับตามตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน น้ำยางข้น ท่อ และข้อต่อ และกลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ ด้ายฝ้าย เส้นใยสังเคราะห์ ผ้าใยสังเคราะห์ และด้ายใยสังเคราะห์ผสมฝ้าย เนื่องจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น
3. เฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค.- พ.ย.) ปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 4.4 โดยหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 1.9 จากสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ผลปาล์มสด น้ำยางสด ยางแผ่นดิบ เศษยาง อ้อย หัวมันสำปะหลังสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พริกแห้ง ผักกวางตุ้ง พริกสด ถั่วฝักยาว หน่อไม้ฝรั่ง องุ่น ลำไย กล้วยไข่ ฝรั่ง ชมพู่ โคมีชีวิต สุกรมีชีวิต ไข่ไก่ และไข่เป็ด กลุ่มผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ ปลาหมึก กุ้งแวนนาไม ปลาสีกุน ปลาทรายแดง หอยแครง และปลาทูสด
หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 7.2 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว (คอนเดนเสท) และกลุ่มแร่ (แร่เหล็ก ดีบุก สังกะสี วุลแฟรม) ตามภาวะตลาดโลก
หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 4.7 จากสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 น้ำมันเตา และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โพรพิลีน เบนซีน กรดเกลือ และปุ๋ยเคมีผสม กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ น้ำมันปาล์มดิบ น้ำตาลทราย มันเส้น มันอัดเม็ด แป้งมันสำปะหลัง เนื้อสุกร ไก่สด เนื้อโค และน้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน น้ำยางข้น ถุงมือยาง แผ่นฟิล์มพลาสติก ถุงพลาสติก และบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแผ่น ท่อเหล็ก เหล็กเส้น เหล็กฉาก เหล็กรูปตัวซี และเหล็กลวด กลุ่มผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ และเครื่องประดับเทียม กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์ต่ำกว่า 1,800 ซีซี รถบรรทุกขนาดเล็ก และตัวถังรถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ ได้แก่ ประตูเหล็ก ตะปู/สกรู/น๊อต ถังแก๊ส ถังเก็บน้ำ และตะแกรงเหล็กสำเร็จรูป กลุ่มกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ เยื่อกระดาษ กล่องกระดาษ กระดาษคร๊าฟท์ กระดาษพิมพ์เขียน และกระดาษแข็ง
4. แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนธันวาคม 2564
ดัชนีราคาผู้ผลิตมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสำคัญจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลให้ราคาสินค้าในกลุ่มปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมูลค่าการส่งออกที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและเงินบาทที่อ่อนค่าลง ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการเปิดประเทศ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มากขึ้น นอกจากนี้ ฐานราคาในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือนธันวาคม 2564 ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (Omicron) ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ยังคงสร้างความกังวลใจ และอาจจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการผลิตขยายตัวได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์