ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม 2564

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 5, 2021 12:24 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนตุลาคม 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 43.4 เทียบกับระดับ 42.1 ในเดือนก่อนหน้า เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 34.2 มาอยู่ที่ระดับ 35.3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 47.4 มาอยู่ที่ระดับ 48.8 เป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ละประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งไทยและต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะยอดการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.1%ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประกอบกับภาครัฐได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายโครงการ อย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ โครงการพาณิชย์ลดราคา!ปุ๋ยช่วยเกษตรกร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการร่วมกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564ส่งผลให้ความเชื่อมั่นภาวะเศรษฐกิจของผู้ประกอบการ เกษตรกรและประชาชนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงที่มีความไม่เชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจก็ตาม

เมื่อพิจารณาปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ปัจจัยเรื่องภัยภิบัติ/โรคระบาด ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 38.72รองลงมาคือ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจไทย คิดเป็นร้อยละ 26.26 ปัจจัยด้านมาตรการของภาครัฐ คิดเป็นร้อยละ 16.56ปัจจัยด้านการเมือง คิดเป็นร้อยละ 7.01ปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก คิดเป็นร้อยละ 5.12 ปัจจัยด้านสังคม/ความมั่นคง คิดเป็นร้อยละ 3.55และปัจจัยด้านราคาสินค้าเกษตร คิดเป็นร้อยละ 2.78 ตามลำดับ โดยกลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นดีขึ้น มองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงประกอบกับเศรษฐกิจยังพอไปได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่น ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นแย่ลงมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19ที่ยังไม่สามารถระงับการแพร่ระบาดได้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว เป็นปัจจัยลบต่อความเชื่อมั่น

          เมื่อพิจารณารายภูมิภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มเกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไม่เปลี่ยนแปลง โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด จากระดับ 39.6 มาอยู่ที่ระดับ 43.2 ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ ปัจจัยด้านภัยพิบัติ/โรคระบาด รองลงมาคือ มาตรการของรัฐ และเศรษฐกิจไทย ตามลำดับ ในขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 42.6    มาอยู่ที่ระดับ 45.0 ภาคเหนือ จากระดับ 39.7 มาอยู่ที่ระดับ 40.8 และภาคใต้ จากระดับ 42.9 มาอยู่ที่ระดับ 43.7 ตามลำดับ โดยมีปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นสอดคล้องกันใน 4 ภูมิภาค โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3ลำดับแรก คือ ปัจจัยด้านภัยพิบัติ/โรคระบาด รองลงมาคือ             ด้านเศรษฐกิจไทย ด้านมาตรการของรัฐ ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาจำแนกรายอาชีพ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มไม่ได้ทำงาน/บำนาญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด จากระดับ 36.1 มาอยู่ที่ระดับ 39.4 รองลงมาคือ กลุ่มรับจ้างอิสระ จากระดับ 39.3 มาอยู่ที่ระดับ 41.9 กลุ่มผู้ประกอบการ จากระดับ 43.6 มาอยู่ที่ระดับ 45.0 กลุ่มพนักงานของรัฐ จากระดับ 48.0 มาอยู่ที่ระดับ 49.3 กลุ่มนักศึกษา จากระดับ 37.4 มาอยู่ที่ระดับ 38.3 กลุ่มพนักงานเอกชน จากระดับ 40.8 มาอยู่ที่ระดับ 41.7 และกลุ่มเกษตรกร จากระดับ 42.5 มาอยู่ที่ระดับ 43.2 ตามลำดับ โดยมีปัจจัยที่สนับสนุนความเชื่อมั่นสอดคล้องกันในทุกกลุ่มอาชีพ โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3ลำดับแรก คือ ปัจจัยด้านภัยพิบัติ/โรคระบาด รองลงมาคือ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจไทย ด้านมาตรการของรัฐ ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เท่ากับ 44.3ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ