ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพฤษภาคม 2565

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 6, 2022 11:15 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนพฤษภาคม 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 44.7 เทียบกับระดับ 45.7 ในเดือนก่อนหน้าปรับตัวลดลงทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน ปรับตัวลดลงจากระดับ 36.4 มาอยู่ที่ระดับ 35.2 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับลดลงจากระดับ 52.0 มาอยู่ที่ระดับ 51.0 ทั้งนี้เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรการของภาครัฐสิ้นสุดลง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล โครงการคนละครึ่ง และโครงการยิ่งใช้ ยิ่งได้ ภัยพิบัติ/โรคระบาดที่ยังมีการระบาดอยู่ และผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นดีขึ้น มองว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากภาคการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นภายหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และมูลค่าการส่งออกของไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเฉพาะความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ที่อยู่ในช่วงที่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค

เมื่อพิจารณาปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค พบว่า ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจไทย ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40.45 รองลงมาคือ ด้านภัยพิบัติ/โรคระบาด คิดเป็นร้อยละ 13.31 ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็นร้อยละ 13.21 มาตรการของภาครัฐ คิดเป็นร้อยละ 11.02 เศรษฐกิจโลก คิดเป็นร้อยละ 7.99 ด้านราคาสินค้าเกษตร คิดเป็นร้อยละ5.19 ด้านการเมือง คิดเป็นร้อยละ 4.75 ด้านสังคม/ความมั่นคง ร้อยละ 3.76 และด้านอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 0.33 กลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นดีขึ้น    มองว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก    ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่น ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นลดลงโดยเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจไทย ภัยพิบัติ/โรคระบาด และผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นปัจจัยลบต่อความเชื่อมั่น

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจำแนกรายภาค

เมื่อพิจารณารายภูมิภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับตัวลดลงมากที่สุด จากระดับ 42.7มาอยู่ที่ระดับ 40.7 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย มาตรการของภาครัฐ และผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

ภาคกลาง ปรับตัวลดลงจากระดับ 46.2 มาอยู่ที่ระดับ 44.5 ภาคเหนือ จากระดับ 43.8มาอยู่ที่ระดับ 43.2 และภาคใต้ จากระดับ 47.0 มาอยู่ที่ระดับ 46.8 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และภัยพิบัติ/โรคระบาด

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปรับตัวลดลงจากระดับ 47.3 มาอยู่ที่ระดับ 46.4 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ภัยพิบัติ/โรคระบาด และมาตรการของภาครัฐ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จำแนกรายอาชีพ

เมื่อพิจารณาจำแนกรายอาชีพ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าเกือบทุกกลุ่มอาชีพ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกร ดัชนีปรับตัวลดลงจากระดับ 46.9มาอยู่ที่ระดับ 45.7โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ราคาสินค้าเกษตร และภัยพิบัติ/โรคระบาด

กลุ่มพนักงานเอกชน จากระดับ 43.9 มาอยู่ที่ระดับ 42.5 กลุ่มผู้ประกอบการ ดัชนีปรับตัวลดลงจากระดับ 46.2 มาอยู่ที่ระดับ 45.6 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และมาตรการของภาครัฐ

กลุ่มรับจ้างอิสระ ดัชนีปรับตัวลดลงจากระดับ 43.4 มาอยู่ที่ระดับ 42.5 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ภัยพิบัติ/โรคระบาด และผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

กลุ่มพนักงานของรัฐ ดัชนีปรับตัวลดลง จากระดับ 52.1 มาอยู่ที่ระดับ 50.7 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และภัยพิบัติ/โรคระบาด

กลุ่มนักศึกษา ดัชนีปรับตัวลดลงจากระดับ 43.0 มาอยู่ที่ระดับ 41.6 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย มาตรการของภาครัฐ และภัยพิบัติ/โรคระบาด

ขณะที่กลุ่มไม่ได้ทำงาน/บำนาญ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 40.8 มาอยู่ที่ระดับ 41.9 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทย ภัยพิบัติ/โรคระบาด และผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

เมื่อพิจารณาจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 47.0มาอยู่ระดับ 43.9 ผู้เชี่ยวชาญ คือ ผู้ทรงคุณวุฒิทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีการติดตามภาวะเศรษฐกิจเป็นประจำ

ดัชนีความเชื่อมั่นผูบริโภคเดือนพฤษภคม 2565 เท่ากับ 44.7 ดัชนีควมเชือมันผูบริโภคโดยรวม เดือนพฤษภคม 2565 ปรับตัวลดลงมอยูทีรดับ 44.7 เทียบกับรดับ 45.7 ในเดือนกอนหน ปรบตวลดลงทงดชนควมเชือมนผูบรโภคในปจจุบนแลในอนคต โดยดชนควมเชือมนผูบรโภคในปจจุบน ปรบตวลดลงจกรดบ 36.4 มอยูทรดบ 35.2 แลดชนควมเชือมนผูบรโภคในอนคต (3 เดือนขงหน) ปรบลดลงจกรดบ 52.0 มอยูทรดบ 51.0 ทงนเปนผลจกภวเศรษฐกจไทยทยงมควมเสยงจกมตรกรควบตรรหวงปรเทศ รคสนคปรบตวสูงขึนจกตนทุนกรผลตทเพมขึน ปรกอบกบมตรกรของภครฐสนสุดลง ไมวจเปนมตรกรชวยเหลือคไฟฟ มตรกรตรึงรคนมนดเซล โครงกรคนลครึง แลโครงกรยงใช ยงได ภยพบต/โรครบดทยงมกรรบดอยู แลผลจกรคนมนเชือเพลงปรบตวสูงขึนตอเนือง อยงไรกตมกลุมผูบรโภคทมควมเชือมนดขึน มองวเศรษฐกจเรมปรบตวดขึนจกภคกรทองเทยวของไทยมแนวโนมปรบตวดขึน มจนวนนกทองเทยวเดนทงเขไทยเพมขึนภยหลงเปดปรเทศเตมรูปแบบ แลมูลคกรสงออกของไทยทมแนวโนมขยยตวตอเนือง ยงคงเปนปจจยบวกทสงผลตอควมเชือมนผูบรโภค โดยเฉพควมเชือมนผูบรโภคในอนคต (3 เดือนขงหน)ทอยูในชวงทมควมเชือมนตอภวเศรษฐกจ

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ