ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2566 เท่ากับ 54.8 60.0
เศรษฐกิจไทยยังเสี่ยง น้ำมันเชื้อเพลิง ช่วงหาเสียง55.0 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นเลือกตั้งและวัคซีน Covid-19 50.0 การแพร่ระบาดของไวรัส การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ระลอก 3 รัสเซีย-ยูเครนรอการจัดตั้งCovid-19ระลอก 1 รัฐบาล45.0
เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและการท่องเที่ยวขยายตัว40.0 การแพร่ระบาดของไวรัส มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
และวัคซีนCovid-19 Covid-19 ระลอก 2 35.0 สถานการณ์การแพร่ระบาด
การแพร่ระบาดของไวรัส ของไวรัส Covid-19 ดีขึ้น
Covid-19 รุนแรงขึ้นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3เดือนข้างหน้า)ตามลำดับ30.0
ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
2563 2564 2565 2566 รายการพ.ย.66 ธ.ค.66 +/-1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม55.0 54.8 2. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน46.3 46.3 =3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า)60.9 60.4 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม เดือนธันวาคม 2566 ปรับลดเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 54.8จาก 55.0 ในเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 (นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565) สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันมีค่าเท่ากับ เดือนก่อนที่ระดับ 46.3ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับลดมาอยู่ที่ระดับ 60.4จาก 60.9สาเหตุคาดว่า มาจาก 1)การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามคาด 2)ความกังวลต่อปัญหารายได้ที่อาจจะยังไม่เพียงพอกับค่าครองชีพและภาระหนี้สิน 3)ราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางรายการปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ช่วงเทศกาลปีใหม่จะส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมาตรการของภาครัฐด้านการลดค่าครองชีพ การเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน รวมถึงมติการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเป็นปัจจัยสนับสนุนส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ในช่วงเชื่อมั่นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค
เมื่อพิจารณาปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคพบว่า ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจไทยส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 48.05รองลงมา คือ มาตรการของภาครัฐ คิดเป็นร้อยละ 14.96.ราคาสินค้าเกษตร คิดเป็นร้อยละ 8.65 สังคม/ความมั่นคง คิดเป็นร้อยละ 7.43เศรษฐกิจโลก คิดเป็นร้อยละ 6.29ผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง คิดเป็นร้อยละ 6.03 การเมืองคิดเป็นร้อยละ 5.28.ภัยพิบัติ/โรคระบาด คิดเป็นร้อยละ 1.93และอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 1.37.ตามลำดับหมายเหตุ:ตั้งแต่เดือนมกราคม2562สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเริ่มใช้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับปรุงใหม่(REV .CCI 2019)
ซึ่งมีการปรับปรุง ทั้งจำนวนกลุ่มตัวอย่าง แบบสอบถาม และวิธีการสำรวจ
เมื่อพิจารณารายภูมิภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 57.4 มาอยู่ที่ระดับ59.1 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรกคือ เศรษฐกิจไทย สังคม/ความมั่นคง และมาตรการของภาครัฐ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ ภาคกลาง จากระดับ 55.7 มาอยู่ที่ระดับ 55.2โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐ และสังคม/ความมั่นคง
ภาคเหนือจากระดับ53.4มาอยู่ที่ระดับ52.6 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากระดับ57.0มาอยู่ที่ระดับ56.6และภาคใต้จากระดับ51.8มาอยู่ที่ระดับ50.5โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น3อันดับแรกคือเศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐและราคาสินค้าเกษตรดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จำแนกรายอาชีพ
เมื่อพิจารณาจำแนกรายอาชีพ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ เกษตรกร จากระดับ 54.1มาอยู่ที่ระดับ54.4โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยราคาสินค้าเกษตรและมาตรการของภาครัฐ
พนักงานเอกชน จากระดับ54.2 มาอยู่ที่ระดับ 54.6โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐ และสังคม/ความมั่นคง
นักศึกษา จากระดับ 52.5 มาอยู่ที่ระดับ54.0 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยสังคม/ความมั่นคงและมาตรการของภาครัฐ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ผู้ประกอบการ จากระดับ 57.4มาอยู่ที่ระดับ 56.2โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐและผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
รับจ้างอิสระ จากระดับ 52.9มาอยู่ที่ระดับ 51.6โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐ และสังคม/ความมั่นคง
พนักงานของรัฐ จากระดับ 59.3มาอยู่ที่ระดับ 58.8โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐ และเศรษฐกิจโลก
ไม่ได้ทำงาน จากระดับ 52.8 มาอยู่ที่ระดับ51.9 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น 3 อันดับแรก คือ เศรษฐกิจไทยมาตรการของภาครัฐ และราคาสินค้าเกษตร
เมื่อพิจารณาจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง จากระดับ 55.1 มาอยู่ที่ระดับ51.5