ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศเดือนตุลาคม 2567

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 7, 2024 14:17 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA:Classificationof ProductsbyActivity)เดือนกันยายน 2567 (ปี 2558 = 100) เท่ากับ 110.9เทียบกับเดือนกันยายน 2566 ลดลงร้อยละ 0.8 (YoY)ประกอบด้วย หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.1 จากกลุ่มสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ โลหะขั้นมูลฐาน (เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก) ผลิตภัณฑ์อาหาร ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 4.2 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 11.6 เป็นผลจากสินค้าสำคัญ ได้แก่ อ้อย ผลปาล์มสด ยางพารา ทุเรียน สับปะรดโรงงาน และกุ้งแวนนาไม

ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing)ประกอบด้วย ดัชนีราคาหมวดสินค้าสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 1.1 จากราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ทองคำ รถบรรทุก และข้าวสารเจ้า และดัชนีหมวดสินค้าวัตถุดิบ สูงขึ้นร้อยละ 3.2 โดยมีสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ยางแผ่นดิบ น้ำยางสด และผลปาล์มสด ขณะที่ดัชนีหมวดสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) ลดลงร้อยละ 5.7 จากการลดลงของสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล เหล็กแท่ง เหล็กแผ่นเหล็กเส้น เหล็กฉาก และน้ำตาลทราย

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 2.1 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หน่วยรับข้อมูล/แสดงผล และแผงวงจรพิมพ์ เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออก ราคาจึงปรับลดลงตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแท่ง เหล็กแผ่น ท่อเหล็กกล้า และเหล็กเส้น เนื่องจากราคาวัตถุดิบลดลง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ มันเส้น ข้าวนึ่ง และน้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ เนื่องจากราคาวัตถุดิบสินค้าเกษตรปรับลดลง น้ำตาลทราย ราคาเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก ปลาป่น เนื่องจากความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์น้ำชะลอตัว ประกอบกับกากถั่วเหลืองที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ใช้ทดแทนกันได้ปรับราคาลดลง กลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ได้แก่ ไม้ยางพารา เนื่องจากประเทศจีนชะลอการสั่งซื้อ กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ โพลีเอทีลีน (PE)ปุ๋ยเคมีผสม และยางสังเคราะห์ เนื่องจากราคาวัตถุดิบลดลง และกลุ่มกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และกระดาษคร๊าฟท์ เนื่องจากคำสั่งซื้อลดลง และกล่องกระดาษ เนื่องจากราคาวัตถุดิบลดลง1. เทียบกับเดือนกันยายน 2566 (YoY)ลดลงร้อยละ 0.8 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

1. เทียบกับเดือนกันยายน 2566 (YoY)ลดลงร้อยละ 0.8 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 11.6

โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 11.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย อ้อย เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ปริมาณผลผลิตในตลาดโลกมีน้อย ผลปาล์มสด จากภาวะความมั่นคงทางพลังงานที่ทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงไบโอดีเซลในตลาดโลกสูงขึ้น ยางพารา เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการใช้และเก็บสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเปิดตลาดส่งออกในภูมิภาคใหม่ ทำให้ความต้องการสินค้าสำหรับส่งออกเพิ่มขึ้น ทุเรียน และสับปะรดโรงงาน เนื่องจากความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ และกุ้งแวนนาไม เนื่องจากเกษตรกรลดการผลิตลงจากต้นทุนการเพาะเลี้ยงที่สูงขึ้น ทำให้ปริมาณผลผลิตในตลาดมีน้อย สำหรับสินค้าที่ราคาปรับลดลง ประกอบด้วย ข้าวเปลือกเจ้า จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับผู้ผลิตรายสำคัญประกาศยกเลิกมาตรการระงับการส่งออกข้าวขาว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจาก ความต้องการใช้ในภาคปศุสัตว์ลดลงกว่าปีก่อน หัวมันสำปะหลังสด จากคุณภาพผลผลิตในปีนี้ลดลงจากโรคใบด่าง และสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบกับผลผลิตในภูมิภาคเข้าสู่ตลาดในปริมาณมาก และโคมีชีวิต เนื่องจากปริมาณผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งจากการนำเข้าและการผลิตของเกษตรกรในประเทศ ขณะที่ความต้องการบริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มลดลง

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 4.2 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก 2. เทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 (MoM)ลดลงร้อยละ 1.2 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 2.4 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ยางพารา จากความต้องการในภาคการส่งออกที่เพิ่มขึ้นไปยังกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ผลปาล์มสด จากการที่ความต้องการของตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะความไม่มั่นคงทางพลังงาน ในขณะที่ปริมาณผลผลิตภาพรวมในตลาดโลกลดลง มะนาว และพืชผัก จากการเตรียมเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ประกอบกับภาวะอุทกภัยในบางภูมิภาคที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตร และกุ้งแวนนาไม ตามปริมาณผลผลิตที่ลดลง จากต้นทุนการเพาะเลี้ยงสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรบางส่วนระงับการเพาะเลี้ยง ประกอบกับโรคกุ้งที่แพร่ระบาดในภูมิภาคสำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาปรับลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากการเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดมาก และโคมีชีวิต จากความต้องการที่ลดลงของตลาดภายในประเทศและการเตรียมเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 0.7 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ (NG)เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 1.6 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันเตา น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันก๊าด และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)ราคาเคลื่อนไหวลดลงตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ โดยเฉพาะจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันโลกชะลอตัว ประกอบกับปริมาณน้ำมันโลกยังอยู่ในระดับสูง กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล IntegratedCircuit(IC)หน่วยรับข้อมูล/แสดงผล และแผงวงจรพิมพ์ เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออก ราคาจึงปรับลดลงตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ทองคำราคาปรับลดลงเล็กน้อยโดยมีปัจจัยหลักจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก และโซดาไฟ เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางลดลงตามราคาตลาดต่างประเทศ ประกอบกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์นั่ง ต่ำกว่า 1,800 ซีซี เนื่องจากการแข่งขันสูงด้านราคา ประกอบกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัวและเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผู้ผลิตบางรายปรับลดราคารถยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ ท่อเหล็กกล้า เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กรูปตัวซี ลวดเหล็ก และลวดแรงดึงสูง เนื่องจากราคาวัตถุดิบลดลง กลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ ผ้าดิบ ผ้าใยสังเคราะห์ และผ้าฝ้าย เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออก ราคาเคลื่อนไหวตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า

3. เฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค. -ก.ย.) ปี 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 2.3 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 8.4 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว อ้อย ยางพารา ผลปาล์มสด ทุเรียน และสับปะรด สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หัวมันสำปะหลังสด มะนาว สุกรมีชีวิต และโคมีชีวิต

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 12.9 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ (NG) และน้ำมันปิโตรเลียมดิบ เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.2 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง น้ำยางข้น และยางแผ่นรมควัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันเตา และน้ำมันเครื่องบิน กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ข้าวนึ่ง น้ำสับปะรด สับปะรดกระป๋อง น้ำตาลทราย และไก่สดแช่เย็นหรือแช่แข็ง กลุ่มเครื่องจักรและเครื่องมือ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ4. ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY)สูงขึ้นร้อยละ 1.6 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 10.2 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว อ้อย ยางพารา ผลปาล์มสด มะนาว พืชผัก ทุเรียนสับปะรด และกุ้งแวนนาไม สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หัวมันสำปะหลังสด สุกรมีชีวิต และโคมีชีวิต

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 2.5 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.8 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง น้ำยางข้น และยางแผ่นรมควัน กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก และเอทานอล กลุ่มเครื่องจักรและเครื่องมือ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ5. ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)ลดลงร้อยละ 1.4 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 2.2 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ยางพารา มะนาว พืชผัก และโคมีชีวิต สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้นได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลปาล์มสด ทุเรียน สับปะรด สุกรมีชีวิต และไข่ไก่

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 1.8 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ คือ ก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากราคาเคลื่อนไหวตามตลาดโลก

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลดลงร้อยละ 1.3 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง น้ำยางข้น และยางแผ่นรมควัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา และน้ำมันเครื่องบิน และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และหน่วยรับข้อมูล/แสดงผล 6. แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

ดัชนีราคาผู้ผลิตไตรมาสที่ 4 ปี 2567 มีแนวโน้มคงที่และอาจลดลงจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ (1) แนวโน้มราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งในหลายภาคส่วนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลง (2) การเข้ามาของสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และ (3) ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในภาคการผลิตเพื่อส่งออก อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลให้ดัชนีเป็นบวกได้แก่ (1) ผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม อาจเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลผลิตทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง (2) สงครามการค้าที่เริ่มขยายวงกว้าง และ (3) สถานการณ์เงินเฟ้อในหลายประเทศคู่ค้าสำคัญ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศไทยตามลำดับ ทั้งนี้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ