ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศเดือนมกราคม 2568

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 6, 2025 15:00 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

เดือนมกราคดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมกราคม2568 เท่ากับ 100.57 (ปีฐาน 2566 =100)ม 2568

เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงร้อยละ1. เดือนมกราคม2567 (YoY)สูงขึ้น1.32 2. เดือนธันวาคม 2567 (MoM) สูงขึ้น0.10 Highlight sดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนมกราคม 2568เท่ากับ 100.57 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 1.32 (YoY) โดยมีปัจจัยหลักจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นผลจากฐานราคาต่ำในปีที่ผ่านมา ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคาผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นสำคัญ และดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนนี้เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาสูงขึ้นร้อยละ 0.10 (MoM)จากการสูงขึ้นของราคาผักสด เครื่องประกอบอาหาร และอาหารสำเร็จรูป อย่างไรก็ตาม มีบริการสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ค่าโดยสารสาธารณะ จากมาตรการรถไฟฟ้า -รถเมล์ฟรี

ทั้งนี้ เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน สูงขึ้นร้อยละ 0.83 (YoY) และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงขึ้นร้อยละ 0.06 (MoM) 1. เทียบกับเดือนมกราคม 2567 สูงขึ้นร้อยละ 1.32(YoY)

โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้*หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 1.78 ตามการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้งสูงขึ้นร้อยละ 1.91 จากการสูงขึ้นของราคาข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว และขนมอบ กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำสูงขึ้นร้อยละ 0.41 จากการสูงขึ้นของราคาปลานิล ปลาทูนึ่งและปลาทู กลุ่มผักสดสูงขึ้นร้อยละ 0.35 จากการสูงขึ้นของราคาแตงกวา ผักบุ้ง และถั่วฝักยาว กลุ่มผลไม้สดสูงขึ้นร้อยละ 5.52 จากการสูงขึ้นของราคาเงาะ ฝรั่ง และทุเรียน กลุ่มเครื่องประกอบอาหารสูงขึ้นร้อยละ 3.30 จากการสูงขึ้นของราคามะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำมันพืช และซอสหอยนางรม กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นร้อยละ 3.18 จากการสูงขึ้นของราคากาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม และน้ำดื่มบริสุทธิ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาลสูงขึ้นร้อยละ 2.01 จากการสูงขึ้นของราคาขนมหวาน และน้ำตาลทราย และกลุ่มอาหารสำเร็จรูปสูงขึ้นร้อยละ 2.53จากการสูงขึ้นของราคาข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป และข้าวผัด ในขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นมลดลงร้อยละ 0.53จากการลดลงของราคานมเปรี้ยว และนมข้นหวาน*หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 1.00 ตามการสูงขึ้นของสินค้าในหมวดเคหสถานสูงขึ้นร้อยละ 0.43 จากการสูงขึ้นของราคาค่ากระแสไฟฟ้า และค่าเช่าบ้าน หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารสูงขึ้นร้อยละ 2.09 จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นสำคัญ หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯสูงขึ้นร้อยละ 0.45 จากการสูงขึ้นของราคาค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมทั้งภาครัฐและเอกชนทุกระดับชั้น และค่าทัศนาจรต่างประเทศ และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์สูงขึ้นร้อยละ 0.80 จากการสูงขึ้นของราคาสุรา และเบียร์ ในขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าลดลงร้อยละ 0.19 จากการลดลงของราคากางเกงขายาวบุรุษ เสื้อยืดบุรุษ และเสื้อเชิ้ตบุรุษ และหมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลลดลงร้อยละ 0.53 จากการลดลงของราคาแป้งผัดหน้า น้ำยาระงับกลิ่นกาย และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า

2. เทียบกับเดือนธันวาคม2567 สูงขึ้นร้อยละ 0.10 (MoM)โดยมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.18 ตามการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำสูงขึ้นร้อยละ 0.29 จากการสูงขึ้นของราคาปลานิล ปลาทู และเนื้อสุกร กลุ่มผักสดสูงขึ้นร้อยละ 1.91 จากการสูงขึ้นของราคาผักบุ้ง แตงกวา และพริกสด กลุ่มผลไม้สดสูงขึ้นร้อยละ 0.39 จากการสูงขึ้นของราคาฝรั่ง แก้วมังกร และมะพร้าวอ่อน กลุ่มเครื่องประกอบอาหารสูงขึ้นร้อยละ 1.05 จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันพืช ซีอิ๊ว และกะทิสำเร็จรูป กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาลสูงขึ้นร้อยละ 0.32 จากการสูงขึ้นของราคาขนมหวาน และน้ำตาลทราย และกลุ่มอาหารสำเร็จรูปสูงขึ้นร้อยละ 0.22 จากการสูงขึ้นของราคาข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป และก๋วยเตี๋ยว ในขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้งลดลงร้อยละ 0.58 จากการลดลงของราคาข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว และอาหารธัญพืช กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นมลดลงร้อยละ 0.15จากการลดลงของราคานมข้นหวาน นมเปรี้ยว และไข่เป็ด และกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลดลงร้อยละ 0.04 จากการลดลงของราคาน้ำดื่มบริสุทธิ์ น้ำอัดลม และกาแฟผงสำเร็จรูปหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.06 ตามการสูงขึ้นของสินค้าในหมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้าสูงขึ้นร้อยละ 0.19 จากการสูงขึ้นของราคาเสื้อยืดบุรุษ เสื้อเชิ้ต กางเกงขายาวบุรุษและสตรี หมวดเคหสถานสูงขึ้นร้อยละ 0.37 จากการสูงขึ้นของราคาค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และน้ำยาปรับผ้านุ่ม หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลสูงขึ้นร้อยละ 0.06 จากการสูงขึ้นของราคาสบู่ถูตัว ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว และหมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯสูงขึ้นร้อยละ 0.03 จากการสูงขึ้นของราคาอาหารสัตว์เลี้ยง และเครื่องถวายพระ ในขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารลดลงร้อยละ 0.27 จากการลดลงของราคาค่าโดยสารรถประจำทาง ค่าโดยสารรถไฟฟ้าและใต้ดิน สำหรับหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ราคาโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง

3. อัตราการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ (YoY) จำแนกรายภาค เดือนมกราคม 2568

ดัชนีราคาผู้บริโภคจำแนกรายภาค พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าสูงขึ้นทุกภูมิภาค โดยอัตราเงินเฟ้อของภาคใต้ เพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยสูงขึ้นร้อยละ 1.78รองลงมา ได้แก่ ภาคเหนือ สูงขึ้นร้อยละ 1.41 ภาคกลาง สูงขึ้นร้อยละ 1.35 กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สูงขึ้นเท่ากันที่ร้อยละ 1.15

เมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้า พบว่า สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้นในทุกภาค ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง และกาแฟผงสำเร็จรูปสำหรับสินค้าที่ปรับตัวลดลงในทุกภาค ได้แก่ ไก่ย่าง พริกสด และมะนาว4. แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ 2568

แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ 2568คาดว่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม 2568โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย (1) ราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33บาทต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน (2) การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน และ (3) สินค้าเกษตรบางชนิดราคายังอยู่ระดับสูง เนื่องจากปริมาณผลผลิตยังไม่เข้าสู่ระดับปกติ หลังจากได้รับผลกระทบของภัยแล้งอย่างยาวนาน โดยเฉพาะพืชสวน เช่น มะพร้าว อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ประกอบด้วย (1) ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนและการตรึงราคาก๊าซ LPG (2) ฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และ (3) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์

แท็ก ดัชนีราคา  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ