ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศเดือนมกราคม 2568

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 6, 2025 15:02 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนมกราคม 2568 เท่ากับ111.1 (ปี 2558=100)Highlights

ดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศ แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA:Classificationof ProductsbyActivity)เดือนมกราคม 2568 (ปี 2558 = 100) เท่ากับ 111.1เทียบกับเดือนมกราคม 2567 สูงขึ้นร้อยละ 0.7 (YoY)ประกอบด้วย หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 2.0 เป็นผลจากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ผลปาล์มสด สับปะรดโรงงาน สุกรมีชีวิต และกุ้งแวนนาไม หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.6 จากกลุ่มสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก กลุ่มเครื่องจักรและเครื่องมือ กลุ่มยานยนต์ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ และกลุ่มสิ่งทอ ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 2.0 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบก๊าซธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้จากการทำเหมือง

ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing)ประกอบด้วย ดัชนีราคาหมวดสินค้าสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 2.8จากราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ทองคำ เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกขนาดเล็ก ไก่สดแช่เย็นหรือแช่แข็ง และกุ้งแวนนาไม ขณะที่ดัชนีหมวดสินค้าวัตถุดิบ ลดลงร้อยละ 2.4 โดยมีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ หัวมันสำปะหลังสด โคมีชีวิต น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และแร่เหล็ก ขณะที่ดัชนีหมวดสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) ลดลงร้อยละ 2.1จากการลดลงของสินค้าสำคัญ ได้แก่ เอทานอล น้ำมันเครื่องบิน วัตถุดิบอาหารสัตว์ พรีมิกซ์ ปลาป่น มันเส้น และกากน้ำตาล 1. เทียบกับเดือนมกราคม 2567 (YoY)สูงขึ้นร้อยละ 0.7 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 2.0 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย ยางพารา จากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในตลาดส่งออกภูมิภาคใหม่ ผลปาล์มสด จากปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่มีน้อย ในขณะที่ความต้องการสินค้าเพิ่มจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลไม้ (ทุเรียน สับปะรดโรงงาน) จากความต้องการของตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น สุกรมีชีวิต และกุ้งแวนนาไม จากความต้องการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน สำหรับสินค้าที่ราคาปรับลดลง ประกอบด้วย ข้าวเปลือกเจ้า จากการที่ประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญยกเลิกมาตรการระงับการส่งออก อ้อย จากฐานราคาของปีก่อนที่สูง ประกอบกับปีนี้ผลผลิตออกมาก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากความต้องการใช้ในภาคปศุสัตว์ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หัวมันสำปะหลังสด จากความต้องการในตลาดส่งออกที่ลดลง พืชผัก (มะนาว คะน้า พริกแห้ง) จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในการเพาะปลูกและมีปริมาณน้ำที่เพียงพอทำให้ปริมาณผลผลิตออกมาก โคมีชีวิต จากความต้องการบริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี ส่งผลให้ราคาหน้าฟาร์มลดลง

1. เทียบกับเดือนมกราคม 2567 (YoY)สูงขึ้นร้อยละ 0.7 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.6 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ เคลื่อนไหวตามราคากลไกตลาดโลก และอุปกรณ์กีฬา ปรับราคาขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง น้ำยางข้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ขณะที่ความต้องการมีอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้น กลุ่มเครื่องจักรและเครื่องมือ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ กลุ่มยานยนต์ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถกระบะ และรถบรรทุกขนาดเล็ก กลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ ผ้าใยสังเคราะห์ และเครื่องนอนต่าง ๆ ปรับราคาตามต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ขณะที่มีการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันก๊าด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เนื่องจากเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ เนื้อสุกร เนื้อปลาสดแช่แข็ง ปลาป่น มันเส้น และน้ำตาล เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออกราคาลดลงตามอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าและการแข่งขันของตลาดโลก กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแท่ง เหล็กแผ่น ท่อเหล็กกล้า เหล็กเส้น เหล็กฉาก เหล็กรูปตัวซี ลวดเหล็ก ตามปัจจัยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เอทานอล สารพอลิเมอร์และสารเคมี (โพรพิลีน ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ เพียวเทเรฟธาลิคแอซิด) เม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้นปรับราคาตามวัตถุดิบที่ลดลง และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรพิมพ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและวงจรรวม IntegratedCircuit(IC)และอุปกรณ์หน่วยรับข้อมูล/แสดงผล ตามปัจจัยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง ลดลงร้อยละ 2.0 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว (คอนเดนเสท) แร่เหล็ก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้จากการทำเหมือง ได้แก่ ยิปซัม โดโลไมต์ ทราย เกลือ ซึ่งราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก

2. เทียบกับเดือนธันวาคม 2567 (MoM)สูงขึ้นร้อยละ 0.1 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 1.8 จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ แร่เหล็ก และสินแร่ธรรมชาติอื่น ๆ ราคาตามตลาดโลกรวมทั้งอุปสงค์ ที่เพิ่มขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมและบริการที่เกี่ยวเนื่อง

หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.2 จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันก๊าด และน้ำมันหล่อลื่น จากราคาเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ แผงวงจรพิมพ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำและวงจรรวม IntegratedCircuit(IC)อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หน่วยรับข้อมูล/แสดงผล และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ และกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กล่องกระดาษ สมุด ปรับขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ขณะที่มีการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแผ่นรมควัน และยางแท่ง ถุงพลาสติก ท่อ ข้อต่อ ความเคลื่อนไหวตามราคาตลาดอ้างอิงและการปรับลดต้นทุนวัตถุดิบให้มีราคาลดลง กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแผ่น ตามปัจจัยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ข้าวสารเจ้า มันเส้น น้ำตาล และข้าวนึ่ง และกลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เอทานอล สารพอลิเมอร์และสารเคมี (โพรพิลีน ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ เพียวเทเรฟธาลิคแอซิด) ปุ๋ยเคมี เม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น (โพลีเอทีลีน) เคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก

2. เทียบกับเดือนธันวาคม 2567 (MoM)สูงขึ้นร้อยละ 0.1 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้

หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 1.4 จากการลดลงของสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า จากการที่ประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญเพิ่มปริมาณการส่งออก ทำให้ปริมาณผลผลิตในตลาดโลกสูงขึ้น อ้อย จากการเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตเข้าสู่ตลาดมาก ราคารับซื้อจึงปรับลดลง ยางพารา จากความต้องการที่ลดลงในตลาดส่งออก หัวมันสำปะหลังสด จากความต้องการที่ลดลงในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องของตลาดปลายทาง พืชผัก (ต้นหอม กระเทียม ผักชี) จากปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดมาก สำหรับสินค้าสำคัญ ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากความต้องการในภาคปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ผลปาล์มสด จากปริมาณผลผลิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้า ผลไม้ (มะพร้าว สับปะรดโรงงาน) จากความต้องการที่มากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ไก่มีชีวิต และกุ้งแวนนาไม จากความต้องการที่มากขึ้นในช่วงเทศกาลสำคัญ (ปีใหม่ และตรุษจีน)

3. แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกุมภาพันธ์ 2568

ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีแนวโน้มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ความต้องการบริโภคในภาพรวมของประเทศที่สูงขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว 2) ภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มจะขยายตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ส่วนปัจจัยกดดันที่สำคัญยังคงเป็น 1) ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง 2) การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดผู้ส่งออกสินค้าเกษตร ประกอบกับฐานราคาสินค้าเกษตรในปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านราคาพลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในทิศทางใด ทั้งนี้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ