ดัชนีภาวะธุรกิจส่งออก ( Export Business Index ) เดือนมกราคม 2553

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 3, 2010 15:48 —สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า

จากผลการตอบแบบสอบถามภาวะธุรกิจส่งออก จากผู้ประกอบการ จำนวน 201 ราย ได้ผลดังนี้

ดัชนีมูลค่าส่งออก

ดัชนีมูลค่าส่งออก ในเดือนมกราคม 2553มีค่าเท่ากับ 49.2สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว อาหารทะเลแช่เยือกแข็งเชื้อเพลิงและพลังงาน สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป และ ยางพารา

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่

ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ ในเดือนมกราคม 2553 มีค่า 51.0 สินค้าที่มีคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป และ ยางพารา ส่วนสินค้าที่มูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ลดลง ได้แก่ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ข้าว อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน

ดัชนีการจ้างงาน
            เดือน           %ดีขึ้น      %เท่าเดิม       %ลดลง     ผลต่าง       ดัชนี
          มกราคม 53        23.2        61.6         15.2      8.0       53.9
          ธันวาคม 52        17.1        66.8         16.1      1.0       50.5
          พฤศจิกายน 52      19.8        63.0         17.2      2.6       51.3

ดัชนีการจ้างงานในเดือนมกราคม 2553มีค่าเท่ากับ 53.9 แสดงว่าการจ้างงานภาคการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ดัชนีสินค้าคงคลัง

ดัชนีสินค้าคงคลังในเดือนมกราคม 2553 มีค่า 45.0 มูลค่า สินค้าคงคลังที่ลดลง ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผักผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง เชื้อเพลิงและพลังงาน ส่วนมูลค่าสินค้าคงคลัง เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยานพาหนะ/อุปกรณ์และส่วนประกอบ สิ่งทอ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว และ ยางพารา

ปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ

ปัญหา

  • ค่าเงินบาทผันผวน และแข็งค่าเกินไป
  • ขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมยางพารา แรงงานระดับล่างและช่างเทคนิค
  • สภาวะแห้งแล้ง จะทำให้ขาดแคลนสับปะรด นอกจากนี้ยังมีปัญหาแมลงทำลายพืชผลการเกษตร
  • การลดอัตราเงินชดเชยของกรมศุลกากร กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ
  • สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

ข้อเสนอแนะ

ภาครัฐควรดำเนินการ ดังนี้

  • ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
  • เร่งรัดภาครัฐและเอกชนให้ดำเนินการตามนโยบายอย่างจริงจังและรวดเร็ว
  • ส่งเสริมให้บริษัทต่างๆ ทำการค้าตามจังหวัดชายแดน โดยให้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีและอื่นๆ
  • ควรมีการประกันราคาน้ำยางดิบให้สูงขึ้น เพราะมีผลต่อต้นทุนการผลิตอย่างมาก เนื่องจากราคาขายปรับขึ้นได้ยาก

หมายเหตุ : การจัดทำดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกจะมีการปรับปรุงข้อมูลดัชนีย้อนหลัง 1 เดือน

ภาคผนวก

1. กลุ่มสินค้าเป้าหมายที่ทำการสำรวจ มีจำนวน 86 กลุ่มสินค้า

2. การคำนวณดัชนี เป็นดัชนีการกระจาย (Diffusion Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นตัวชี้นำ (leading indicator) และแสดงทิศทางการเติบโต (growth) ของภาวะธุรกิจ จากการแปลงข้อมูลเชิงคุณภาพ (qualitative) ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณ (quantitative) โดยกำหนดค่าคำตอบที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถาม คือ เพิ่มขึ้นให้คะแนน เท่ากับ 1เท่าเดิมให้คะแนน เท่ากับ 0.5และ ลดลงให้คะแนนเท่ากับ 0 จากนั้นนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน หารด้วยจำนวนผู้ตอบแบบทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 จะได้ดัชนีของแต่ละคาบเวลา ดัชนีจะมีค่าสูงสุดเท่ากับ 100 และค่าต่ำสุดเท่ากับ 0

3. การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อแสดงทิศทางเศรษฐกิจภาคการส่งออก ใช้เส้นค่า 50 (break even point) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ถ้าผลการคำนวณดัชนีอยู่เหนือเส้น50 แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจดีขึ้น ถ้าดัชนีอยู่ใกล้แนวเส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง และถ้าดัชนีอยู่ใต้เส้น 50แสดงว่านักธุรกิจมองว่าธุรกิจแย่ลง

ทั้งนี้ ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว หากดัชนีตัดแนวเส้น 50 ลงมา หมายถึง ภาวะธุรกิจแย่ลงหรือชะลอตัว สำหรับในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ถ้าดัชนีตัดแนวเส้น 50 ขึ้นไป แสดงว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นหรือขยายตัว

ที่มา: สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทร.0 2507 5811-13, โทรสาร 0 2507 5806,0 2507 5825

www.price.moc.go.thEmail: neworders@moc.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ