คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสนับสนุนการพิจาณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) จากงบกลาง ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้การกำกับดูแลของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (กอ.รมน. ภาค 4) ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเสนอ โดยให้ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนในรอบครึ่งปีแรกของปีงบประมาณเพิ่มเติมอีกในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนข้าราชการผู้มาปฏิบัติงานใน กอ.รมน. ภาค 4 ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน รายงานว่า การปฏิบัติงานของกำลังพลใน กอ.รมน.ภาค 4 เป็นการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ต้องตรากตรำทำงานอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย และอยู่ในภาวะกดดันทางด้านจิตใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต่างจากกำลังพลที่ปฏิบัติงานทั่วไปในพื้นที่อื่น ๆ สภาวการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเครียดและเบื่อหน่าย ทำให้กำลังพลบางหน่วยจำเป็นต้องหมุนเวียนกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือน ทั้งนี้ กอ.รมน. พิจารณาแล้วเห็นว่า การหมุนเวียนกำลังมาปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือนดังกล่าว ทำให้กำลังพลที่มาปฏิบัติงานในรอบครึ่งปีแรกไม่ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี เนื่องจากการคิดยอดบำเหน็จความชอบประจำปีกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) จะพิจารณาในวงรอบการพิจารณาบำเหน็จประจำครึ่งปีหลังเท่านั้น ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และเป็นค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของกำลังพลดังกล่าว กอ.รมน. จึงขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 มีนาคม 2550--จบ--
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน รายงานว่า การปฏิบัติงานของกำลังพลใน กอ.รมน.ภาค 4 เป็นการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ต้องตรากตรำทำงานอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย และอยู่ในภาวะกดดันทางด้านจิตใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต่างจากกำลังพลที่ปฏิบัติงานทั่วไปในพื้นที่อื่น ๆ สภาวการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเครียดและเบื่อหน่าย ทำให้กำลังพลบางหน่วยจำเป็นต้องหมุนเวียนกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือน ทั้งนี้ กอ.รมน. พิจารณาแล้วเห็นว่า การหมุนเวียนกำลังมาปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือนดังกล่าว ทำให้กำลังพลที่มาปฏิบัติงานในรอบครึ่งปีแรกไม่ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี เนื่องจากการคิดยอดบำเหน็จความชอบประจำปีกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) จะพิจารณาในวงรอบการพิจารณาบำเหน็จประจำครึ่งปีหลังเท่านั้น ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และเป็นค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของกำลังพลดังกล่าว กอ.รมน. จึงขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 มีนาคม 2550--จบ--