คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอทั้ง 2 ข้อ ดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่
2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขยายเวลาการรายงานผลการศึกษาปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 ซึ่งเดิมกำหนดไว้ 60 วัน คือภายในวันที่ 4 กันยายน 2553 ออกไปอีก 30 วัน
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) รายงานว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (6 กรกฎาคม 2553 และ 13 กรกฎาคม 2553) กษ. โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวสรุปได้ ดังนี้
มาตรการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ตามมติคณะรัฐมนตรี ผลการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 มาตรการระยะสั้น มาตรการระยะสั้น 1. ให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ขยายเวลาการปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง 1. ให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ขยายเวลาการปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงเพื่อผลผลิต ออกไปอีกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ จากเดิมที่กำหนดปลด ไข่ไก่ช่วงเดือนกรกฎาคม — สิงหาคม 2553 ข้อมูลการปลด แม่ไก่ไข่ยืนกรงที่อายุ 78 สัปดาห์ เป็น 82 สัปดาห์ แม่ไก่ไข่ผ่านระบบการเคลื่อนย้ายอิเล็กทรอนิกส์ลดลงจากช่วง หรือจนกว่าสถานการณ์ตลาดไข่ไก่จะเข้าสู่ภาวะปกติ เดียวกันของปีที่แล้วจำนวน 3 แสนตัว/เดือน สามารถเพิ่ม ผลผลิตไก่ไข่ 5 แสนฟอง/เดือน ปัจจุบันสถานการณ์ตลาดไข่ไก่ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ 2. ให้ผู้ส่งออกไข่ไก่ชะลอการส่งออกเป็นการชั่วคราว 2. ให้ผู้ส่งออกชะลอส่งออกไข่ไก่ชั่วคราว ยกเว้นกรณีที่มีสัญญา ยกเว้นกรณีที่มีสัญญาผูกพัน ผูกพัน ข้อมูลกรมศุลกากรรายงานล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2553 ปริมาณส่งออกไข่ไก่เดิมเฉลี่ยเดือนละ 12 ล้านฟอง ลดลง เหลือเดือนละ 6 ล้านฟอง ทำให้มีผลผลิตไข่ไก่บริโภค ภายในประเทศเพิ่มขึ้น 6 ล้านฟอง/เดือน 3. ให้กรมปศุสัตว์บริหารจัดการกระจายลูกไก่ไข่จำนวน 3. ให้ปศุสัตว์จังหวัดแจ้งมาตรการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ตามมติ 50,000 ตัวต่อเดือนให้แก่เกษตรกรที่ขาดแคลนลูกไก่ไข่ คณะรัฐมนตรีและรับปัญหาจากเกษตรกรเรื่องลูกไก่ไข่ขาด ทั้งนี้ ให้กรมปศุสัตว์ประสานแผนการผลิตและการ แคลน ช่วงเดือนกรกฎาคม — สิงหาคม 2553 เกษตรกรแสดง กระจายลูกไก่ไข่ร่วมกับภาคเอกชนผู้ผลิตลูกไก่ไข่ ความจำนงต้องการลูกไก่ไข่ทดแทนและขยายการเลี้ยงทั้งหมด 37 ราย จำนวน 74,000 ตัว ได้ประสานผู้เลี้ยงไก่ไข่พันธุ์จัดหา ลูกไก่ไข่จัดส่งให้เกษตรกรที่มีแผนนำเข้าไก่ไข่แน่นอน ถึงสิ้นปี 2553 จำนวน 16 ราย เหลืออีก 11 ราย เกษตรกรยังไม่ได้ กำหนดแผนนำเข้าไก่ไข่เข้าเลี้ยงที่แน่นอน 4. ให้กรมปศุสัตว์ กษ. ในฐานะเลขา 4. การติดตามเฝ้าระวังราคาพันธุ์สัตว์และไข่ไก่ได้ขอความ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์เฝ้า ร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ปรับราคาพันธุ์สัตว์ให้สอดคล้องกับ ระวังและติดตามภาวะราคาลูกไก่ ไก่สาว อย่าง สถานการณ์และต้นทุนการผลิต ดำเนินการ 2 ระยะ ครั้งที่ 1 ต่อเนื่องและเสนอคณะกรรมการฯ ให้กำหนดแนวทาง ปรับราคาลูกไก่ไข่และไก่สาว จากตัวละ 30 และ 154 บาท ในการปรับราคาจำหน่ายให้สอดคล้องกับต้นทุนการ เหลือ 28 และ 149 บาท ครั้งที่ 2 ปรับราคาลูกไก่ไข่เหลือตัวละ ผลิตที่เหมาะสม 25 บาท และไก่ไข่สาวตัวละ 144 บาท ยืนราคาถึงปัจจุบัน ส่วนราคาไข่ไก่ให้ปรับตัวตามกลไกตลาด ปัจจุบัน (กันยายน 2553) เหลือ 2.60 บาท ลดลงจากฟองละ 2.80 บาท เมื่อเดือนกรกฎาคม 2553 5. การรายงานผลการดำเนินงานมาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่ 5. ให้กรมปศุสัตว์รายงานผลการดำเนินงานต่อ ต่อคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ ครั้งที่ 1 คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2553 และครั้งที่ 2 วันที่ 24 กันยายน ภายใน 30 วัน 2553 มาตรการระยะกลาง มาตรการระยะกลาง 1. ประสานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อดำเนินการศึกษา 1. ให้กรมปศุสัตว์ประสาน ปรับโครงสร้าง อำนาจหน้าที่และการดำเนินงานของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินการศึกษาปรับปรุง คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ตามมติ โครงสร้างอำนาจหน้าที่และการดำเนินงานของ คณะรัฐมนตรีกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ให้ กรกฎาคม — 4 กันยายน 2553 โดยทำบันทึกข้อตกลงโครงการ แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ความร่วมมือการศึกษาปรับปรุงโครงสร้าง คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์กับประธาน คณะทำงานรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (รศ.ดร.สามัคคี บุณยะวัฒน์) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำหนดระยะเวลา 50 วัน นับแต่วันที่ได้ลงนามข้อตกลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 — วันที่ 3 กันยายน 2553 2.ประธานคณะทำงาน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (รศ.ดร.สามัคคี บุณยะวัฒน์) ขอ เลื่อนส่งผลการศึกษาปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการนโยบาย พัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ จากวันที่ 3 กันยายน 2553 เป็นวัน อังคารที่ 14 กันยายน 2553 มาตรการระยะยาว มาตรการระยะยาว ให้มีพ่อ-แม่พันธุ์ไก่ไข่ (P.S.) ส่วนกลางที่กรมปศุสัตว์ ให้มีพ่อ-แม่พันธุ์ไก่ไข่ไว้เป็นส่วนกลางที่กรมปศุสัตว์ เพื่อบริหารจัดการ กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินงานตามมติคณะ เพื่อการบริหารจัดการดุลยภาพการผลิตและการตลาด รัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคม 2553 ซึ่งมอบหมายให้ กษ. ในอุตสาหกรรมไก่ไข่ และแก้ไขปัญหาเกษตรกรในกรณี (กรมปศุสัตว์) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้ถูกต้องตาม ที่ไม่มีลูกไก่ไข่เลี้ยง โดยเกษตรกรที่รวมตัวกันเป็น กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์แจ้งเกษตรผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ สหกรณ์หรือสมาคมต้องเสนอแผนการผลิตแผนการ แสดงความจำนงขอนำเข้า พ่อ-แม่พันธุ์ไก่ไข่ (P.S.) ตั้งแต่วันที่ ตลาดประกอบการพิจารณาปริมาณการนำเข้าพ่อแม่ 13 กรกฎาคม — 17 กันยายน 2553 ทั้งหมด 11 ราย จำนวน พันธุ์ไก่ไข่ ทั้งนี้มอบให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบ 90,888 ตัว โดยนำเข้าในปี 2553 จำนวน 62,888 ตัว ข้อเท็จจริงและร่วมกับสมาคมผู้ผลิตไก่ไข่พันธุ์กำหนด ปี 2554 จำนวน 28,000 ตัว ปริมาณพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ที่จะให้กรมปศุสัตว์ ถือสิทธิใน ปริมาณที่เหมาะสม
ส่วนผลจากการดำเนินมาตรการด้านราคาคือ ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวลดลงฟองละ 20 สตางค์ ปริมาณไข่ไก่เพื่อบริโภคภายในประเทศช่วงเดือนกรกฎาคม — กันยายน เพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 6.5 ล้านฟอง จำนวนแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปี 2553 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 468,000 ตัว สามารถผลิตไก่ไข่ได้ ประมาณ 42 ล้านตัว ไข่ไก่ประมาณ 12,432 ล้านฟอง ในปี 2554
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ตุลาคม 2553--จบ--