ขออนุมัติการให้เงินอุดหนุนแก่สถาบันกฎหมายระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 20, 2010 15:41 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่สถาบันกฎหมายระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประจำปี ค.ศ. 2011 ในอัตรา 10,000 ยูโร และอนุมัติในหลักการให้ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนให้แก่สถาบันกฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ โดยเงินบริจาค จำนวน 10,000 ยูโร ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ที่ได้รับการจัดสรรและให้เสนอขอตั้งงบประมาณสำหรับเงินอุดหนุนรายการดังกล่าวในปีต่อๆ ไปตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) รายงานว่า

1. สถาบันกฎหมายฯ ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก เป็นสถาบันที่สอนกฎหมายระหว่างประเทศทั้งแผนกคดีบุคคล (Private International Law) และแผนกคดีเมือง (Public International Law) ตั้งแต่ปี 2466 (ค.ศ.1923) โดยมีหลักสูตรกฎหมายภาคฤดูร้อนเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในวงการกฎหมายระหว่างประเทศในแต่ละปีจะมีนักกฎหมายจากทั่วโลกเข้ารับการอบรมกว่า 600 คน และที่ผ่านมาก็มีนักกฎหมายของไทยเข้าร่วมการอบรมในหลักสูตรดังกล่าวด้วย โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2542-2552 มีนักกฎหมายไทยเข้ารับการอบรมที่สถาบันกฎหมายฯ ในหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา จำนวน 6 คน และหลักสูตรกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง จำนวน 12 คน นอกจากนี้ สถาบันกฎหมายฯ ยังมีโครงการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไปให้การฝึกอบรมบุคลากรด้านกฎหมายในประเทศต่าง ๆ ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการจัดโครงการฝึกอบรมในไทยในปี 2517 (ค.ศ.1974)

ทั้งนี้ สหประชาชาติได้รับรองผลงานและความสำคัญของสถาบันกฎหมายฯ ว่ามีทบบาทในการพัฒนาความรู้และวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และได้ขอให้รัฐสมาชิกสหประชาชาติให้การสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของสถาบันกฎหมายฯ

2. จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 มิถุนายน 2522) ประเทศไทยได้บริจาคเงินอุดหนุนให้แก่สถาบันกฎหมายฯ จำนวน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีเป็นเวลา 30 ปีแล้ว กต. จึงเห็นควรปรับเพิ่มจำนวนเงินอุดหนุนแก่สถาบันกฎหมายฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันและเพื่อเป็นประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากหลักสูตรฝึกอบรมของสถาบันกฎหมายฯ โดยเห็นควรให้บริจาคเงินอุดหนุนเพื่อแก่สถาบันกฎหมายฯ เป็นจำนวน 10,000 ยูโรต่อปี โดยระบุให้เป็นการให้ทุนการศึกษาเพื่อให้นักกฎหมายไทยมีโอกาสได้เพิ่มพูนความรู้ด้านกฎหมายระหว่างประเทศได้มากขึ้น

3.ในการบริจาคเงินอุดหนุนในรูปแบบของทุนการศึกษาดังกล่าวจะเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และบทบาทของไทยในการสนับสนุนการพัฒนาความรู้และวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของสหประชาชาติที่ต้องการให้รัฐสมาชิกให้การสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของสถาบันกฎหมายฯ และจะทำให้นักกฎหมายไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมในการอบรมด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ณ สถาบันกฎหมายดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างเครือข่ายการประสานงานกับนักกฎหมายระหว่างประเทศให้ใกล้ชิดมากขึ้นด้วย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ตุลาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ