เรื่อง การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนโครงการ Clean Air For Smaller Cities in the ASEAN Region
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติร่างหนังสือแลกเปลี่ยนโครงการ Clean Air For Smaller Cities in the ASEAN Region และการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าว และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ความเห็นชอบการลงนามแทนคณะรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2546 โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศเป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนตอบรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในนามของรัฐบาลไทย
2. หากมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่มีผลกระทบต่อเนื้อหาสาระสำคัญของหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงในเรื่องนั้น ๆ ได้
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) รายงานว่า
1. รัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้สนับสนุนโครงการ Clean Air For Smaller Cities in the ASEAN Region ตามข้อเสนอของสำนักเลขาธิการอาเซียน พร้อมทั้งได้เสนอร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ เพื่อเป็นข้อตกลงสำหรับการดำเนินงานโครงการดังกล่าวในประเทศไทยระหว่างรัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย
2. เนื้อหาของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าวมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
2.1 โครงการ Clean Air For Smaller Cities in the ASEAN Region มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือกในการจัดทำแผนและดำเนินงานด้านคุณภาพอากาศ โดยมีสถานที่ตั้งโครงการที่กรุงเทพมหานคร มูลค่าความร่วมมือจำนวนทั้งสิ้น 2.5 ล้านยูโร โดยประเทศไทยได้รับส่วนแบ่งจำนวน 450,000 ยูโร ระยะเวลาโครงการ 4 ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 — ธันวาคม 2555 โดยมีกรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยปฏิบัติงานของฝ่ายไทยและสำนักงานความร่วมมือทางวิชาการของเยอรมนี (GTZ) เป็นหน่วยปฏิบัติงานของฝ่ายเยอรมนี
2.2 ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ได้อ้างอิงหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างสำนักเลขาธิการอาเซียนและ รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ความตกลงแม่บทว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2513 และมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 กันยายน 2546 พร้อมทั้งระบุข้อผูกพันของฝ่ายเยอรมนีที่จะให้การสนับสนุนรถยนต์ ผู้เชี่ยวชาญ และวัสดุอุปกรณ์ และข้อผูกพันของฝ่ายไทยที่จะต้องสมทบความร่วมมือ เช่น การจัดหาเจ้าหน้าที่สมทบ การยกเว้นภาษี และการอำนวยสิทธิพิเศษ ทั้งนี้ หนังสือแลกเปลี่ยนฯ จะเป็นข้อตกลงโครงการ และจะมีผลบังคับนับจากวันที่ฝ่ายไทยแจ้งตอบรับหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายเยอรมนี
3. รัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้เตรียมการให้ความร่วมมือในส่วนที่เกี่ยวข้องแก่ประเทศไทยแล้ว ได้แก่ การจัดตั้งสำนักงานโครงการ ณ กรมควบคุมมลพิษ และการจัดส่งผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้องเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทยเพื่อวางแผนงานการดำเนินงาน รวมทั้งจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงานโครงการที่วางไว้
4. การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนฯ เพื่อเป็นข้อตกลงสำหรับโครงการดังกล่าว ถือเป็นข้อผูกพันของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและเสริมสร้างสมรรถนะของหน่วยงานรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการบริหารและจัดการคุณภาพอากาศในเมืองให้ดียิ่งขึ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในอาเซียน ทั้งนี้ การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนฯ เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการให้มีผลผูกพันต่อไป
5. กต.ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาและให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
5.1 กรมอาเซียนเห็นว่า โครงการดังกล่าวได้รับการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนเมื่อปี 2548 ซึ่งสำนักเลขาธิการอาเซียนและรัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้พิจาณารายละเอียด และได้เห็นชอบเมื่อปี 2550
5.2 กรมสนธิสัญญาและกฎหมายได้เห็นชอบต่อสาระและถ้อยคำในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ของฝ่ายเยอรมนีและร่างหนังสือตอบกลับของฝ่ายไทยแล้ว และเห็นว่าร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ น่าจะเป็นหนังสือสัญญาฯ ตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และโดยที่ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ เป็นการกำหนดรายละเอียดการดำเนินโครงการภายใต้ความตกลงแม่บทว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทยและเยอรมนีวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2513 จึงไม่น่าจะเข้าข่ายหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
5.3 กรมควบคุมมลพิษไม่ขัดข้องต่อสาระของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ หากเป็นไปตามระเบียบข้อตกลงระหว่างประเทศ และกฎหมายไทย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ตุลาคม 2553--จบ--