ขอเสนอโครงการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุด

เรื่อง ขอเสนอโครงการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดจากราชอาณาจักรนอร์เวย์

มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว

คณะรัฐมนตรีรับทราบการจัดทำโครงการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดจากราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว และเห็นชอบให้โครงการอัญเชิญธรรมเจดีย์ฯ เป็นโครงการของรัฐบาลร่วมกับคณะสงฆ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2553 ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวให้ใช้จ่ายจากงบประมาณเงินกองทุนพุทธมณฑล จำนวนไม่เกิน 37,722,850 บาท โดยให้ดำเนินการโดยประหยัดด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

สาระสำคัญของเรื่อง

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รายงานว่า

1. มหาเถรสมาคมได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2553 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2553 ที่ประชุมรับทราบการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดจากสถาบันอนุรักษ์สเคอเยนสู่ราชอาณาจักรไทย ในช่วงงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2553 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 เพื่อเป็นการเชิดชูและสนับสนุนในการนำคัมภีร์พุทธศาสนาที่เก่าแก่อันเป็นหลักฐานบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่สร้างสันติภาพให้สังคมโลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมาจัดแสดงให้พุทธศาสนิกชนได้ชม และเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์

2. การดำเนินงานเพื่อการอัญเชิญธรรมเจดีย์ฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ทันเพื่อให้เป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลวันวิสาขบูชาตามมติมหาเถรสมาคม เนื่องจากช่วงระยะเวลาดังกล่าวเกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง

3. เพื่อให้การดำเนินงานด้านต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พศ. จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการและ คณะอนุกรรมการรวม 7 คณะ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ได้เห็นชอบและลงนามในคำสั่งแต่งตั้งด้วยแล้ว ดังนี้

3.1 คณะกรรมการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดจากราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว (ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 225/2553 ลงวันที่ 6 กันยายน 2553) ประกอบด้วยที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ซึ่งเป็นฝ่ายสงฆ์ จำนวน 11 รูป และคณะกรรมการอำนวยการซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) เป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ และกรรมการอื่นอีก 37 คน โดยมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

3.1.1 ให้คำปรึกษาในการกำหนดแผนงานขั้นตอนการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดจากราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในราชอาณาจักรไทย

3.1.2 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้ การดำเนินงานสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อย

3.1.3 ขอความร่วมมือสนับสนุนจากทุกหน่วยงานในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติถวาย พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

3.2 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาโบราณเก่าแก่ที่สุดจากราชอาณาจักรนอร์เวย์ มาประดิษฐานในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว (ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 226/2553 ลงวันที่ 6 กันยายน 2553) จำนวน 6 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการอัญเชิญธรรมเจดีย์ คณะอนุกรรมการฝ่ายศาสนพิธี คณะอนุกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจร คณะอนุกรรมการฝ่ายการเงิน คณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ และคณะอนุกรรมการฝ่ายนิทรรศการและวิชาการ

4. ระยะเวลาและสถานที่ดำเนินงาน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2553 — กุมภาพันธ์ 2554 ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

5. งบประมาณ งบประมาณจากกองทุนพุทธมณฑล ในวงเงินงบประมาณจำนวน 37,722,850 บาท

6. หน่วยงานที่รับผิดชอบ หน่วยงานเจ้าของโครงการ : พศ. หน่วยงานสนับสนุน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 ตุลาคม 2553--จบ--