การขอยกเว้นค่าธรรมเนียมถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่ของส่วนราชการ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 3, 2010 11:18 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเข้าพื้นที่ของส่วนราชการต่างๆ เป็นเวลา 1 ปี เพื่อสร้างแรงจูงใจ ช่วยลดภาระและบรรเทาอุปสรรคบางส่วนให้แก่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งของชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวม 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมชลประทาน กรมศิลปากร กรมธนารักษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย และการท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยมีเงื่อนไขยังคงต้องวางเงินประกันความเสียหายก่อนการถ่ายทำภาพยนตร์ให้แก่หน่วยงานดังกล่าวตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ รายงานว่า

1. จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองเมื่อวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2553 ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคณะถ่ายทำภาพยนตร์ชาวต่างประเทศต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยและความไม่สะดวกต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นของคณะถ่ายทำภาพยนตร์ชาวต่างประเทศที่ประสงค์จะเข้ามาใช้สถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์ รวมทั้งการเข้ามาใช้บริการหลังการถ่ายทำ (Post Production) เช่น การตัดต่อล้าง กราฟฟิก หรือแอนนิเมชั่น เพราะไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความไม่สะดวกในด้านการบริการต่าง ๆ

2. เพื่อเป็นการเยียวยาหรือบรรเทาอุปสรรคต่าง ๆ ให้แก่คณะถ่ายทำภาพยนตร์ชาวต่างประเทศและ ชาวไทยดังกล่าว และเป็นการจูงใจอย่างหนึ่งให้เห็นว่ารัฐบาลไทยมีความจริงใจในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยเฉพาะคณะถ่ายทำภาพยนตร์ชาวต่างประเทศที่เห็นความสำคัญของประเทศไทยและตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของตน ซึ่งส่งผลให้เกิดผลประโยชน์ต่อการสร้างงานการกระจายรายได้ การประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย

3. อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2552 ประเทศไทยมีรายได้จากภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยมีมูลค่าถึงกว่า 800 ล้านบาท แต่จากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองดังกล่าว ทำให้รายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยลดลงจากเดิมตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมาถึงร้อยละ 55 และในปี 2553 นี้ คาดว่าจะลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 เป็นต้นมา มีภาพยนตร์ประเภทต่าง ๆ ที่ได้ขออนุญาตถ่ายทำไว้แล้วและเตรียมจะถ่ายทำในช่วงกลางปีและปลายปีนี้ แต่ได้แจ้งว่า ขอเลื่อนกำหนดการถ่ายทำภาพยนตร์ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความสะดวกและอาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังไม่สามารถหาบริษัทประกันภัยใดรับประกันให้แก่กองถ่ายทำภาพยนตร์ที่จะเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย หรือ มีการคิดอัตราค่ากรมธรรม์ประกันภัยที่สูงมากอันส่งผลกระทบต่อต้นทุนการสร้างภาพยนตร์ ทำให้คณะถ่ายทำภาพยนตร์ ดังกล่าวไม่สามารถเข้ามาถ่ายทำได้ จึงจำเป็นต้องเลื่อนหรือยกเลิกการถ่ายทำเรื่องนั้นๆ ในประเทศไทย โดยหันไปเลือกถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศอื่น ๆ แทน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ