ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ทก.) รายงานว่า

1. สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) เป็นทบวงชำนัญพิเศษภายใต้สหประชาชาติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2408 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในการพัฒนาและปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากกิจการโทรคมนาคม รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือด้านโทรคมนาคมแก่ประเทศกำลังพัฒนา ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 192 ประเทศ

2. สมาชิกสภาบริหารของ ITU ประกอบด้วยประเทศสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม จำนวน 48 ที่นั่ง ๆ ละ 1 ประเทศ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี เพื่อทำหน้าที่พิจารณากำหนดนโยบายและวางแผนงานด้านโทรคมนาคม รวมถึงการบริหารงานของ ITU ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าของกิจการโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ประสานงานการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของ ITU ควบคุมและบริหารการเงินรวมทั้งทรัพยากรบุคคล จัดสรรความช่วยเหลือให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้แก่ประเทศสมาชิกในการบังคับใช้ข้อกำหนด ต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในธรรมนูญ อนุสัญญา และระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ของ ITU ทั้งนี้ จำนวนที่นั่งของสมาชิกสภาบริหารแบ่งตามภูมิภาค ดังนี้

2.1 ภูมิภาคเอ : อเมริกา (Region A : Americas) จำนวน 9 ที่นั่ง

2.2 ภูมิภาคบี : ยุโรปตะวันออก (Region B : Western Europe) จำนวน 8 ที่นั่ง

2.3 ภูมิภาคซี : ยุโรปตะวันออก (Region C : Eastern Europe) จำนวน 5 ที่นั่ง

2.4 ภูมิภาคดี : แอฟริกา (Region D : Africa) จำนวน 13 ที่นั่ง

2.5 ภูมิภาคอี : เอเชียและออสตราลาเซีย (Region E : Asia and Australasia) จำนวน 13 ที่นั่งประเทศไทยจัดอยู่ในภูมิภาคอีและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาบริหารติดต่อกัน จำนวน 7 สมัย

3. ประเทศไทยได้แต่งตั้งคณะผู้แทนไปร่วมการประชุม PP-10 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนการเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารสำหรับวาระการดำรงตำแหน่งระหว่าง ค.ศ. 2010-2014 จัดขึ้นในวันที่ 11 ตุลาคม 2553 ผลการเลือกตั้งในภูมิภาคอี (13 ที่นั่ง) มีประเทศสมัครเป็นสมาชิกสภาบริหารจำนวน 17 ประเทศ ขณะที่จำนวนที่นั่ง 13 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งปรากฏว่า มีประเทศที่ออกเสียงเลือกตั้งสำหรับ ภูมิภาคนี้จำนวน 161 ประเทศ ผลการเลือกตั้งเรียงตามลำดับคะแนน คือ (1) อินโดนีเซีย 135 คะแนน (2) จีน 134 คะแนน (3) ญี่ปุ่น 133 คะแนน (4) มาเลเซีย 127 คะแนน (5) สาธารณรัฐเกาหลี 125 คะแนน (6) บังกลาเทศ 123 คะแนน (7) ประเทศไทย 121 คะแนน (8) ออสเตรเลีย 119 คะแนน (9) อินเดีย 119 คะแนน (10) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 114 คะแนน (11) คูเวต 108 คะแนน (12) ซาอุดิอาระเบีย 105 คะแนน (13) ฟิลิปปินส์ 97 คะแนน

4. จากผลการเลือกตั้งสภาบริหารของ ITU ดังกล่าว นับได้ว่าประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการที่ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 8 ด้วยคะแนน 121 เสียง คิดเป็นร้อยละ 77.07 จากผู้ลงคะแนนทั้งหมด 157 ประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาของประเทศไทยในสภาบริหารและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของ ITU และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประสานงานในการขอเสียงและแลกเสียงทั้งที่ผ่านช่องทางการทูตโดยกระทรวงการต่างประเทศ และผ่านความร่วมมือเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ ดังนั้น ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องแสดงบทบาทและการมีส่วนร่วมในสภาบริหารอย่างแข็งขันและเพิ่มมากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับความสนับสนุนต่อไปในอนาคต

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553--จบ--