ดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศ และดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกเดือนสิงหาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 3, 2010 14:04 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศ และดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกเดือนสิงหาคม 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้

กระทรวงพาณิชย์ มีการปรับปรุงการจัดทำดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศ โดยปรับเปลี่ยนน้ำหนักจากปี 2551 เป็นปี 2552 ใช้มูลค่าการส่งออก-นำเข้า จากกรมศุลกากรเป็นตัวถ่วงน้ำหนัก และได้มีการปรับปรุงรายการสินค้าที่ใช้คำนวณในปี 2553 คือ ดัชนีราคาส่งออก จำนวน 1,138 รายการ และดัชนีราคานำเข้า จำนวน 909 รายการ เพื่อให้สะท้อนภาวะการค้าของประเทศที่เป็นปัจจุบัน แต่ยังคงปีฐาน 2550 = 100

กระทรวงพาณิชย์ ขอรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าของประเทศ ในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ดัชนีราคาส่งออก เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.4 และดัชนีราคานำเข้า สูงขึ้นร้อยละ 0.9 ทั้งนี้เป็นการสูงขึ้นทุกหมวดสินค้า

1. ดัชนีราคาส่งออก

1.1 ดัชนีราคาส่งออกของประเทศ เดือนสิงหาคม 2553

ในปี 2550 ดัชนีราคาส่งออกของประเทศ เท่ากับ 100 เดือนสิงหาคม 2553 เท่ากับ 120.3 และเดือนกรกฎาคม 2553 เท่ากับ 119.8

1.2 การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาส่งออกของประเทศ เดือนสิงหาคม 2553 เมื่อเทียบกับ เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.4 เดือนสิงหาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 6.5 เฉลี่ย มกราคม-สิงหาคม ปี 2553 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 10.0

1.3 ดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนสิงหาคม 2553 เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.4 (เดือนกรกฎาคม 2553 ไม่เปลี่ยนแปลง) จากการสูงขึ้นของหมวดสินค้าเกษตรกรรม ร้อยละ 1.1 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 0.5 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 0.4 และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 1.2

สินค้าส่งออกที่ราคาสูงขึ้น

หมวดสินค้าเกษตรกรรม ดัชนีราคาส่งออกสูงขึ้นร้อยละ 1.1 (เดือนกรกฎาคม 2553 ลดลงร้อยละ 1.0) จากการสูงขึ้นของสินค้ากสิกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ผักสดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง สินค้าประมง (ปลาหมึก ปลา สัตว์น้ำจำพวกครัสตาเซีย) ปศุสัตว์ (สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง ไข่ไก่สด) ราคาสูงขึ้นเช่นกัน

หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ดัชนีราคาส่งออกสูงขึ้นร้อยละ 0.5 (เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 2.1) จากการสูงขึ้นของอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป น้ำตาลทราย ผักกระป๋องและแปรรูป

หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ดัชนีราคาส่งออกสูงขึ้นร้อยละ 0.4 (เดือนกรกฎาคม 2553ไม่เปลี่ยนแปลง) สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ สิ่งทอ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอิเลคทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง

หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ดัชนีราคาส่งออกสูงขึ้นร้อยละ 1.2 (เดือนกรกฎาคม 2553 ลดลงร้อยละ 1.9) สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ สังกะสี น้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูป

1.4 ดัชนีราคาส่งออกของประเทศเดือนสิงหาคม 2553 เทียบกับเดือนสิงหาคม 2552 ดัชนีราคาส่งออกสูงขึ้นร้อยละ 6.5 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงทุกหมวด ได้แก่ หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 28.5 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 5.3 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 2.7 และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 9.8

1.5 ดัชนีราคาส่งออกของประเทศเฉลี่ยมกราคม-สิงหาคม 2553 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ดัชนีราคาส่งออกสูงขึ้นร้อยละ 10.0 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ได้แก่ หมวดสินค้าเกษตรกรรม สูงขึ้นร้อยละ 37.8 หมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้นร้อยละ 6.9 หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 3.5 และหมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 34.8

2. ดัชนีราคานำเข้า

2.1 ดัชนีราคานำเข้าของประเทศ เดือนสิงหาคม 2553

ในปี 2550 ดัชนีราคานำเข้าของประเทศ เท่ากับ 100 เดือนสิงหาคม 2553 เท่ากับ 118.9 และเดือนกรกฎาคม 2553 เท่ากับ 117.8

2.2 การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคานำเข้าของประเทศ เดือนสิงหาคม 2553 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.9 เดือนสิงหาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 5.5 เฉลี่ย มกราคม-สิงหาคม ปี 2553 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 9.0

2.3 ดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนสิงหาคม 2553 เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.9 (เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.3) เป็นผลจากการสูงขึ้นของสินค้าทุกหมวด ได้แก่ หมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 1.8 หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง สูงขึ้นร้อยละ 1.4 หมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 0.8 หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปและหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นเท่ากัน คือ ร้อยละ0.7

สินค้านำเข้าที่ราคาสูงขึ้น

หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 1.8 (เดือนกรกฎาคม 2553 ลดลงร้อยละ 1.0) ได้แก่ น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ตามภาวะตลาดโลก

หมวดสินค้าทุน ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 0.8 (เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.6) สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ

หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 0.7 (เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.7) สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ทองคำ เงิน แพลทินัม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ทองแดงและผลิตภัณฑ์

หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 0.7 (เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.7) สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์นม ยารักษาโรค เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน(เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ลำโพง ชิ้นส่วนโทรทัศน์) และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด

หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 1.4 (เดือนกรกฎาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 1.4) สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

2.4 ดัชนีราคานำเข้าของประเทศเดือนสิงหาคม 2553 เทียบกับเดือนสิงหาคม 2552 ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 5.5 ปัจจัยสำคัญจากการสูงขึ้นในหมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 7.0 หมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 3.5 หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 6.1 หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 2.3 และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง สูงขึ้นร้อยละ 7.4

2.5 ดัชนีราคานำเข้าของประเทศเฉลี่ยมกราคม-สิงหาคม 2553 เทียบกับช่วงเดียวกัน ของปี 2552 ดัชนีราคานำเข้าสูงขึ้นร้อยละ 9.0 จากการสูงขึ้นของหมวดสินค้าเชื้อเพลิง สูงขึ้นร้อยละ 26.1 หมวดสินค้าทุน สูงขึ้นร้อยละ 3.3 หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้นร้อยละ 4.6 หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้นร้อยละ 1.6 และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง สูงขึ้นร้อยละ 5.7

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ