รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกันยายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 3, 2010 14:08 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกันยายน 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้

ดัชนีราคาผู้บริโภคแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตมีเสถียรภาพดีอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกันยายน 2553 เท่ากับ 108.49 โดยเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.0 เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 3.3 ) ถือว่าเป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสมกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย โดยเฉลี่ย 9 เดือนแรกของปี 2553 นี้ เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 3.4 ซึ่งอยู่ในช่วงที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี (โดยคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นระหว่าง ร้อยละ 3.0 - 3.5 )

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของโลกแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีของไทย โดยอัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2552 และปรับตัวเข้าสู่เสถียรภาพตั้งแต่ต้นปีนี้ คือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ในเดือน ม.ค. ร้อยละ3.7 ในเดือน ก.พ. ร้อยละ 3.4 ในเดือนมี.ค. และร้อยละ 3.0 ในเดือนเม.ย. จนอยู่ ในระดับร้อยละ 3.5 ในเดือนพ.ค. สำหรับเดือนมิ.ย., ก.ค.,และส.ค.ร้อยละ 3.3, 3.4และ 3.3 ตามลำดับและร้อยละ 3.0 ในเดือน ก.ย. แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยเติบโตมีเสถียรภาพดีอย่างต่อเนื่อง

ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนกันยายน 2553 เทียบกับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาลดลง ร้อยละ 0.07 โดยมีผลกระทบมาจากข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้น ร้อยละ 0.59 ผักสด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.62 ผลไม้สด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.99 ปลาและสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.98 กับข้าวสำเร็จรูป เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21 ขณะที่ของใช้ส่วนบุคคล ลดลง ร้อยละ 0.11 เนื้อสัตว์ต่างๆ ลดลงร้อยละ 0.58 ไข่ไก่ ลดลงร้อยละ 1.60 นอกจากนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ลดลงร้อยละ 2.87 และสินค้าในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ลดลงร้อยละ 0.02

มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลได้แก่ ค่าไฟฟ้า รถเมล์ฟรี การตรึงราคาแก๊สหุงต้ม และการช่วยเหลือค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน และการดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด ยังคงมีส่วนช่วยทำให้ค่าครองชีพของประชาชนให้อยู่ในภาวะที่แสดงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกันยายนและระยะ 9 เดือน 2553 โดยสรุปเป็นดังนี้

จากการสำรวจราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศจำนวน 417 รายการครอบคลุมหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เคหสถาน การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล พาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร การบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา ยาสูบและเครื่องดื่ม มีแอลกอฮอล์ เพื่อนำมาคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ได้ผลดังนี้

1. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนกันยายน 2553 ใน ปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เท่ากับ 100 และเดือนกันยายน 2553 เท่ากับ 108.49 ( เดือน สิงหาคม 2553 คือ 108.57 )

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนกันยายน 2553 เมื่อเทียบกับ (2.1) เดือนสิงหาคม 2553 ลดลงร้อยละ 0.07 (2.2) เดือนกันยายน 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.0 (2.3) เฉลี่ยช่วงระยะ 9 เดือน (มกราคม - กันยายน) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.4

3. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนกันยายน 2553 เทียบกับ เดือนสิงหาคม 2553 ลดลงร้อยละ 0.07 (เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.23 ) เป็นภาวะที่ราคาสินค้าและบริการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยสินค้าอาหารสดและสินค้าอุปโภคที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ไข่ ไก่สด ข้าวสารเจ้า น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าของใช้ส่วนบุคคลและ ค่าเช่าบ้าน ในขณะที่สินค้าราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ผักและผลไม้ ข้าวสารเหนียว ปลาและสัตว์น้ำ นมและผลิตภัณฑ์นม เครื่องปรุงอาหาร อาหารสำเร็จรูป วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์สุรา ค่าบริการบำรุงรักษายานยนต์และ วารสารรายปักษ์

3.1 ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.27 (เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.48) สาเหตุสำคัญเป็นผลจากราคาสินค้าอาหารสดบางรายการยังมีระดับราคาสูง ประกอบด้วย ผักและผลไม้ ร้อยละ 1.04 ได้แก่ ผักกาดขาว ผักคะน้า ผักบุ้ง เห็ด มะนาว ต้นหอม กระเทียม ส้มเขียวหวาน กล้วยน้ำว้า มะม่วง มะละกอสุก สับปะรด แตงโม องุ่น ฝรั่ง ชมพู่และลำไย เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกบางแห่งได้รับความเสียจากภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วม ส่งผลให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดน้อยลง ขณะที่ความต้องการบริโภคมีมาก ข้าวสารเหนียว ร้อยละ 3.71 ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ปลาและสัตว์น้ำ ร้อยละ 0.98 (ปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม ปลากะพงและปลาทู) เป็นผลจากภาวะฝนตกหนักน้ำท่วมปริมาณปลาและสัตว์น้ำที่จับได้ลดน้อยลง ประกอบกับความต้องการบริโภคสัตว์น้ำมีมากในช่วงนี้ นมและผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 0.21 (นมข้นหวาน นมเปรี้ยว ครีมเทียม นมถั่วเหลือง) เครื่องปรุงอาหาร ร้อยละ 0.19 (ซีอิ๊ว ซอสพริก เครื่องปรุงรส น้ำพริกแกง) และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 0.11 (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวผัด ปลากระป๋อง อาหารว่าง) สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ร้อยละ 0.79 สภาพอากาศที่เย็นลงทำให้สุกรเติบโตได้ดีผลผลิตจึงออกสู่ตลาดมากรวมทั้งสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มมีราคาลดลง ไข่ ร้อยละ 1.50 (ไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่เค็ม) ผลผลิตไข่ไก่ในท้องตลาดเริ่มมีมากขึ้นจากมาตรการเปิดเสรีการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ไก่สด ร้อยละ 0.34 และข้าวสารเจ้า ร้อยละ 0.08

3.2 ดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.27 (เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.07) สาเหตุสำคัญเป็นผลกระทบจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศโดยเฉลี่ยปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ร้อยละ 2.74 ค่าของใช้ส่วนบุคคล ร้อยละ 0.11 (ยาสีฟัน ใบมีดโกน ครีมนวดผม น้ำยาระงับกลิ่นกาย แป้งทาผิวกาย )และค่าเช่าบ้าน ร้อยละ 0.01 เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันด้านที่อยู่อาศัยมากขึ้น สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง ร้อยละ 0.52 (ปูนซีเมนต์ อิฐ แผ่นไม้อัด) ผลิตภัณฑ์สุรา ร้อยละ 0.05 ค่าบริการบำรุงรักษายานยนต์ ร้อยละ 0.22 (ค่าบริการบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ ค่าบริการเปลี่ยนคลัทช์) และวารสารรายปักษ์ ร้อยละ 6.64 (กุลสตรี)

4. ถ้าพิจารณาดัชนีเทียบกับเดือนกันยายน 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.0 เป็นการสูงขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 สาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น ร้อยละ 6.6 ได้รับผลกระทบมาจาก ดัชนีหมวด ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 11.8 เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ร้อยละ 4.7 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 2.7 ผักและผลไม้ ร้อยละ 30.7 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 3.0 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.0 และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 1.0 รวมทั้งผลกระทบจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ หมวดพาหนะการขนส่ง และการสื่อสาร ร้อยละ 0.6 (ยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิง) หมวดเคหสถาน ร้อยละ 1.9 (ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำประปา) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ร้อยละ 0.5 (ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าของใช้ส่วนบุคคล) หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา ร้อยละ 0.3 (การบันเทิง การอ่านและการศึกษา)

5. ถ้าพิจารณาดัชนีเฉลี่ยเทียบกับช่วงระยะ 9 เดือน (มกราคม - กันยายน ) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.4 สาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 17.5 ค่าน้ำประปา ร้อยละ 45.7 ค่ากระแสไฟฟ้า ร้อยละ1.5 ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร้อยละ 9.7 เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 4.1 และค่าเช่าบ้าน ร้อยละ 0.3 และจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 2.3 ในขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 5.3 เป็นผลจากการสูงขึ้นของ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 10.2 เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ร้อยละ 3.4 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 3.2 ผักและผลไม้ ร้อยละ 24.6 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.4 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.2 และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 0.9 เป็นสำคัญ

6. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ( คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 300 รายการ) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และกลุ่มพลังงานจำนวน 117 รายการ คิดเป็นประมาณร้อยละ 24 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนกันยายน 2553 เท่ากับ 103.72 เมื่อเทียบกับ

6.1 เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.04

6.2 เดือนกันยายน 2552 สูงขึ้นร้อยละ 1.1

6.3 เฉลี่ยช่วงระยะ 9 เดือน ( มกราคม - กันยายน ) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 0.8

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนกันยายน 2553 เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้น ร้อยละ 0.04 ( เดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.01 )โดยมีผลกระทบมาจากราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวทั้งสูงขึ้นและลดลง สินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง ค่าบริการบำรุงรักษายานยนต์และวารสารรายปักษ์ ขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ค่าของใช้ส่วนบุคคลและค่าเช่าบ้าน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ