สรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 37

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 3, 2010 14:24 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 37 ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ประกอบด้วย สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร สถานการณ์น้ำ และการดำเนินการตามแผนเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปได้ดังนี้

สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร

ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 27 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส สตูล สงขลา ลพบุรี สระบุรี สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และอุบลราชธานี

1. นราธิวาส เกิดฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 30-31 ต.ค.53 วัดปริมาณฝนสะสมได้ที่อำเภอสุคิริน 265 มิลลิเมตร อำเภอแว้ง 288 มิลลิเมตร อำเภอเมือง 180 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโกลกล้นตลิ่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจะแนะ แว้ง รือเสาะ ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. สตูล เกิดฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 53 วัดปริมาณฝนได้ที่อำเภอเมือง 125 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนกาหลง 3 ตำบล ท่าแพ 4 ตำบลควนโดน 4 ตำบล มะนัง 2 ตำบล

3. สงขลา เกิดฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 53 วัดปริมาณฝนได้ที่อำเภอเมือง 208 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ นาทวี จะนะ คลองหอยโข่ง สะเดา

4. ลพบุรี สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี 9 ตำบล โคกสำโรง 13 ตำบล ชัยบาดาล 16 ตำบล พัฒนานิคม 6 ตำบลลำสนธิ 6 ตำบล ท่าหลวง หนองม่วง สระโบสถ์ 5 ตำบลโคกเจริญ 5 ตำบล บ้านหมี่ 7 ตำบล ท่าวุ้ง 6 ตำบล

5. สระบุรี สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 15 ต.ค.53 ในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 4 ตำบล 1 เทศบาล อำเภอบ้านหมอ 2 ตำบล พระพุทธบาท 1 ตำบล มวกเหล็ก 2 ตำบล แก่งคอย 12 ตำบล วังม่วง 3 ตำบลเสาไห้ 12 ตำบล เฉลิมพระเกียรติ 3 ตำบล ดอนพุด 4 ตำบล หนองแซง 9 ตำบล หนองแค 13 ตำบลวิหารแดง 7 ตำบล

6. สุโขทัย สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.53 ในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภอกงไกลาศ ตำบลกง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน

7. พิษณุโลก สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 29 ส.ค.53 ในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภอบางระกำ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน

8. กำแพงเพชร สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี 9 ตำบล ปางศิลาทอง 2 ตำบล ไทรงาม 7 ตำบล บึงสามัคคี 4 ตำบล ทรายทองวัฒนา 3 ตำบล ทรายท้องพานกระต่าย 8 ตำบล

9. อุทัยธานี สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภอเมืองอุทัยธานี 2 ตำบล

10.นครสวรรค์ สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตาคลี 5 ตำบล ลาดยาว 8 ตำบล หนองบัว 4 ตำบล.ท่าตะโก 10 ตำบล ไพศาลี 8 ตำบล เมือง 3 ตำบล บรรพตพิสัย

11. ชัยนาท สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 3-4 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเนินขาม 3 ตำบล หันคา 7 ตำบล เมืองชัยนาท 8 ตำบล วัดสิงห์ 4 ตำบล หนองมะโมง 4 มโนรมย์ 7 ตำบล สรรพยา 7 ตำบล

12. สิงห์บุรี สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 19-20 ต.ค 53 ในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภออินทร์บุรี 7 ตำบล 2 เทศบาล

13. อ่างทอง สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 19-20 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ป่าโมก ไชโย วิเศษชัยชาญ โพธิ์ทอง สามโก้ และแสวงหา

14. พระนครศรีอยุธยา สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 19-20 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา 4 ตำบล บางไทร 23 ตำบล มหาราช 12 ตำบล ผักไห่ 7 ตำบลบางบาล 8 ตำบล

15. นครปฐม สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 53 ในพื้นที่อำเภอ 1 อำเภอ คือ อำเภอบางเลน 2 ตำบล

16. นนทบุรี สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ได้แก่ อ.ปากเกร็ด 7 ตำบลเมืองนนทบุรี 4 ตำบล บางกรวย 4 ตำบล บางใหญ่ 6 ตำบล บางบัวทอง 8 ตำบล ไทรน้อย 7 ตำบล

17. ปทุมธานี สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี สามโคก ลาดหลุมแก้ว ธัญบุรี ลำลูกกา คลองหลวง และหนองเสือ

18. สุพรรณบุรี สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 53 ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 19 ตำบล.บางปลาม้า 13 ตำบล.สองพี่น้อง 14 ตำบล สามชุก 7 ตำบล หนองหญ้าไซ 6 ตำบล เดิมบางนางบวช 14 ตำบล

19. นครราชสีมา สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 15-16 ต.ค.53 ในพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 11 ตำบล สูงเนิน 11 ตำบล ขามทะเลสอ 5 ตำบล โนนแดง 3 ตำบล คง 2 ตำบล เสิงสาง 6 ตำบล หนองบุญมาก จักรราช 8 ตำบล เทพารักษ์ 4 ตำบล ด่านขุนทด 16 ตำบลบ้านเหลื่อม 4 ตำบล โนนสูง 16 ตำบล โชคชัย 10 ตำบล พิมาย 6 ตำบล โนนไทย 10 ตำบล ห้วยแถลง 10 ตำบล ปากช่อง 8 ตำบล สีคิ้ว 3 ตำบล ปักธงชัย 11 ตำบล ขามสะแกแสง 7 ตำบล เฉลิมพระเกียรติ 5 ตำบล พระทองคำ 5 ตำบล บัวใหญ่ 7 ตำบล ครบุรี บัวลาย เมืองยาง ศรีดา ชุมพวง วังน้ำเขียวลำทะเมน แก้งสนามนาง

20. ศรีสะเกษ สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค.53 ในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภอขุนหาญ 1 ตำบล

21. ชัยภูมิ สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 16 ต.ค.53 ในพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ ได้แก่ อำเภอเมือง เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เนินสง่า จัตุรัส บ้านเขว้า แก้งคร้อ หนองบัวแดง หนองบัวระเหว คอนสวรรค์ ซับใหญ่ คอนสาร ภักดีชุมพล เทพสถิต และบ้านแท่น

22. สุรินทร์ สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 19 ต.ค.53 ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ ได้แก่ อำเภอเมือง 3 ตำบล สังขะ 4 ตำบล. บัวเชด 6 ตำบล ศรีขรภูมิ 1 ตำบล.ศรีณรงค์ 5 ตำบล ชุมพลบุรี 9 ตำบล กาบเชิง 5 ตำบล

23. บุรีรัมย์ สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 20 ต.ค.53 ในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง สตึก ปะคำ บ้านกรวด ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ ละหานทราย นางรอง หนองหงส์ ลำปลายมาศ และชำนิ

24. ขอนแก่น สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 20 ต.ค.53 ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูผาม่าน 3 ตำบลบ้านไผ่ 1 ตำบล 1 เทศบาล.ชุมแพ 12 ตำบล หนองเรือ 5 ตำบล อ.มัญจาคีรี 8 ตำบล

25. กาฬสินธุ์ สถานการณ์น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกมลาไสย 4 ตำบล ร่องคำ 1 ตำบล ฆ้องชัย 3 ตำบล

26 มหาสารคาม สถานการณ์น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 11 ตำบล โกสุมพิสัย 13 ตำบล กุดรัง 1 ตำบล เชียงยืน 8 ตำบล กันทรวิชัย 6 ตำบล นาเชือก 10 ตำบล บรบือ 12 ตำบล

27.อุบลราชธานี สถานการณ์น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 1 เทศบาล วารินชำราบ 10 ชุมชน

สถานการณ์น้ำ

1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ (1 พฤศจิกายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 55,692 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 76 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน(54,923 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 769 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 31,851 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (58,725 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80) จำนวน 3,033 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างจำนวน 185.62 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 149.78 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 17,863 ล้านลูกบาศก์เมตร

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (1 พฤศจิกายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 52,170 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน(51,406 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 764 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 28,647 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2552 (55,472 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80) จำนวน 3,302 ล้านลูกบาศก์เมตร วันนี้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จำนวน 178.46 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 135.97 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 17,425 ล้านลูกบาศก์เมตร

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์

                                                               หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำ        ปริมาตรน้ำ      ปริมาตรน้ำ           ปริมาณน้ำ         ปริมาณน้ำ    ปริมาณน้ำ
               ในอ่างปี 53      ใช้การได้           ไหลลงอ่าง          ระบาย      รับได้อีก
            ปริมาตรน้ำ   %   ปริมาตรน้ำ    %      วันนี้  เมื่อวาน      วันนี้ เมื่อวาน
1.ภูมิพล         8,494  63      4,694   35    33.12   35.65        0      0     4,968
2.สิริกิติ์         7,784  82      4,934   52     6.62    8.88      3.5   3.41     1,726
ภูมิพล+สิริกิติ์     16,278  71      9,628   42    39.74   44.53      3.5   3.41     6,694
3.แควน้อยฯ        775 101        739   96     8.19    9.23    12.96  12.96         0
4.ป่าสักชลสิทธิ์      976 102        973  101    20.26   33.53    39.74  49.42         0
รวม 4 อ่างฯ    18,029  73     11,340   46    68.19   87.29     56.2  65.79     6,694

หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร

อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 21 อ่าง ดังนี้

                                                                                     หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำ            ปริมาตรน้ำในอ่างฯ      ปริมาตรน้ำใช้การได้       ปริมาณน้ำไหล    ปริมาณน้ำระบาย    ปริมาณน้ำรับได้อีก
                                                                   ลงอ่าง
                    ปริมาตร  % ความจุ     ปริมาตร   % ความจุ      วันนี้    เมื่อ    วันนี้     เมื่อ
                        น้ำ     อ่างฯ         น้ำ      อ่างฯ             วาน            วาน
1.สิริกิต์               7,784       82      4,934        52     6.62   8.88    3.5    3.41         1,726
2.แม่งัดฯ                280      106        258        97     3.34  10.48   1.95    4.63             0
3.กิ่วลม                  93       83         89        79     7.76   7.18   6.05    8.12            19
4.กิ่วคอหมา              198      116        192       113     0.58   3.39   1.71    1.28             0
5.แควน้อยฯ              775      101        739        96     8.19   9.23  12.96   12.96             0
6.ห้วยหลวง              127      108        122       103     0.37   0.63   0.05    0.05             0
7.จุฬาภรณ์               176      107        132        80     0.92    1.3      1       1             0
8.อุบลรัตน์             2,855      117      2,274        94    36.51  44.15  34.72   34.68             0
9.ลำปาว              1,283       90      1,198        84     0.03   4.92   4.63    4.92           147
10. ลำตะคอง            358      114        331       105     1.26   1.66   3.01    3.39             0
11.ลำพระเพลิง           111      101        110       100      0.4    0.5   0.73    0.82             0
12.มูลบน                119       84        112        79     0.45    0.3      0       0            22
13.ลำแซะ               253       92        246        89     1.17      0      0       0            22
14.สิรินธร             1,590       81        759        39     0.85      0      0       0           376
15.ป่าสักชลสิทธิ์           976      102        973       101    20.26  35.53  39.74   49.42             0
16.ทับเสลา              164      103        156        98     1.56   1.45   1.89    2.11             0
17.กระเสียว             260      108        220        92     4.01   5.87   6.27    7.43             0
18.ขุนด่านฯ              219       98        214        96     0.58   0.33   0.03    0.08             5
19.คลองสียัด             426      101        396        94        0      0   1.46    1.46             0
20.หนองปลาไหล          165      101        151        93      0.5   0.69   0.41    0.42             0
21.ประแสร์              255      103        235        95     0.85   0.09   2.07    1.19             0

2. สภาพน้ำท่า

ปริมาณน้ำในลำน้ำต่างๆ ตามสถานีสำรวจปริมาณน้ำท่า กรมชลประทาน พบว่ามีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้น

แม่น้ำปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

แม่น้ำวัง บริเวณอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

แม่น้ำยม บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำล้นตลิ่ง

แม่น้ำน่าน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

แม่น้ำชี อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำล้นตลิ่ง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

แม่น้ำมูล อำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำล้นตลิ่ง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก

ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 2,590 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 52 ลบ.ม./วินาที)

ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 3,535 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 97 ลบ.ม./วินาที)

รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 42 ลบ.ม./วินาที (เท่ากับเมื่อวาน) และทุ่งฝั่งตะวันตก 196 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 43 ลบ.ม./วินาที)

ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 534 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 165 ลบ.ม./วินาที)

การดำเนินการตามแผนเตรียมสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร

1. แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2553 จำนวน 3 ฉบับ แบ่งเป็น แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา 1 ฉบับ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล 2 ฉบับ

2. แจ้งเตือนให้เตรียมการรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม 2553 จำนวน 9 ฉบับ

3. สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ได้เตรียมการไว้ จำนวน 1,200 เครื่อง สนับสนุนแล้ว จำนวน 688 เครื่อง ในพื้นที่ 40 จังหวัด ดังนี้

ภาคเหนือ 9 จังหวัด จำนวน 46 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่(2) ลำปาง(4) ลำพูน(2) พิษณุโลก(2) พิจิตร(2)นครสวรรค์(28) ตาก(3) สุโขทัย(2) เพชรบูรณ์(1)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด จำนวน 102 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น(16) มหาสารคาม(7) ร้อยเอ็ด(10) กาฬสินธุ์(11) ชัยภูมิ(11) นครราชสีมา(47)

ภาคกลาง 19 จังหวัด จำนวน 475 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท(22) สิงห์บุรี(10) พระนครศรีอยุธยา(29) นนทบุรี(43) ปทุมธานี(65) นครปฐม(31) ลพบุรี(39) สุพรรณบุรี(12) สระบุรี(18) ราชบุรี(9) อุทัยธานี(12) อ่างทอง(23) กาญจนบุรี(4) กรุงเทพฯ(8) สมุทรสาคร(6) ฉะเชิงเทรา(19)

ภาคตะวันออก 4 จังหวัด จำนวน 25 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดนครนายก(5) ปราจีนบุรี(11) ระยอง(8) ชลบุรี(1)

ภาคใต้ 2 จังหวัด จำนวน 40 เครื่อง ได้แก่ จังหวัด เพชรบุรี(41) สงขลา(15)

4. สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ จำนวน 534,886 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 225,826 กิโลกรัม) แร่ธาตุและเวชภัณฑ์ 2,325 ชุด (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1,533 ชุด) และดูแลสุขภาพสัตว์ 568,104 ตัว (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 278,062 ตัว) ในพื้นที่ 30 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม หนองคาย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี น่าน กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ชัยนาท ปทุมธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สระบุรี อ่างทอง ปราจีนบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้เตรียมความพร้อมด้านเสบียงสัตว์ไว้ล่วงหน้า โดยการผลิตทั้งหญ้าแห้ง หญ้าสด และหญ้าหมักไว้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์/สถานีพัฒนาอาหารสัตว์ จำนวน 29 ศูนย์/สถานีสามารถบริการช่วยเหลือราษฎรได้ทันที (ณ วันที่ 1 พ.ย. 53) จำนวน 7,310 ตัน

ผลกระทบด้านการเกษตร

ด้านพืช

ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ต.ค. 53) ประสบภัย จำนวน 54 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี กรุงเทพฯ ชัยนาท นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี และระนอง

คาดว่าจะเสียหาย 2,757,236 ไร่ ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 29 ต.ค.53) พบว่าเสียหายแล้ว 682,611 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 624,821 ไร่ พืชไร่ 47,226 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 10,904 ไร่ เกษตรกร 77,011 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 428.26 ล้านบาท แบ่งเป็น ช่วยเหลือแล้ว 86.22 ล้านบาท (เงินท้องถิ่น เงินทดรองราชการอำเภอและจังหวัด 79.55 ล้านบาท เงินทดรองราชการปลัดกระทรวงเกษตรฯ 6.67 ล้านบาท) อยู่ระหว่างขอรับการช่วยเหลือ 342.04 ล้านบาท

ช่วงภัยวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 53) ประสบภัย จำนวน 42 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงใหม่ ตาก ลำพูน ลำปาง นครสวรรค์ น่าน พิจิตร เพชรบูรณ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ศรีสะเกษ หนองคาย กรุงเทพฯ ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี สิงห์บุรี สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

คาดว่าจะเสียหาย 6,084,779 ไร่ แยกเป็น ข้าว 4,533,045 พืชไร่ 1,391,018 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 160,716 ไร่ เกษตรกร 471,949 ราย

รวม 2 ช่วงภัย คาดว่าจะเสียหาย 8,842,015 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 6,974,414 ไร่ พืชไร่ 1,674,635 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 192,966 ไร่ เกษตรกร 765,896 ราย

ด้านประมง

ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 53) ประสบภัยทั้งสิ้น 55 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร ตาก เพชรบูรณ์ พิษณุโลก แพร่ กำแพงเพชร นครสวรรค์ เลย มุกดาหาร นครพนม หนองบัวลำภู อุดรธานี บุรีรัมย์ ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร สกลนคร อุบลราชธานี หนองคาย กาฬสินธุ์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครราชสีมา อุทัยธานี สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก นนทบุรี กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี พังงา

คาดว่าจะเสียหาย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 71,010 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 76,435 ตารางเมตร เกษตรกร 50,760 ราย ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 29 ต.ค.53) พบว่าพื้นที่เพาะเลี้ยงเสียหายแล้ว 9,496 ไร่ และ 10,267 ตารางเมตร คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 31.65 ล้านบาท แบ่งเป็น ช่วยเหลือแล้ว 17.92 ล้านบาท (เงินท้องถิ่น เงินทดรองราชการอำเภอและจังหวัด 12.84 ล้านบาท เงินทดรองราชการปลัดกระทรวงเกษตรฯ 5.08 ล้านบาท) อยู่ระหว่างขอรับการช่วยเหลือ 13.73 ล้านบาท

ด้านปศุสัตว์

ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 53) ประสบภัยทั้งสิ้น 38 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี น่าน ลำปาง ลำพูน ขอนแก่น มหาสารคาม หนองคาย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กรุงเทพฯ ชัยนาท ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง ปราจีนบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร

คาดว่าจะเสียหาย เกษตรกร 92,158 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 11,246,399 ตัว แบ่งเป็น โค 255,392 ตัว กระบือ 11,450 ตัว สุกร 346,020 ตัว แพะ-แกะ 14,239 ตัว สัตว์ปีก 10,619,298 ตัว แปลงหญ้า 35,511 ไร่

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ