คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวน หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า ได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 28 มีนาคม 2549 เสร็จแล้ว โดยแก้ไขในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวคือ กำหนดให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกับปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมควรเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสองเท่าของจำนวนที่กำหนดไว้ เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งตามจำนวนที่กำหนด เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการสรรหาตามร่างฯ ที่เสนอมามีความซับซ้อนหรือเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ และเป็นภาระงบประมาณในการสรรหา ประกอบกับคณะกรรมการนี้ทำหน้าที่ส่งเสริมและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ มิได้ใช้อำนาจในทางปกครองแต่อย่างใด จึงควรที่จะได้บุคคลตามความประสงค์และมีความเหมาะสมแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวน หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ และองค์กรเอกชน แห่งละ 1 คน โดยมีผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาเป็นกรรมการและเลขานุการ (ร่างข้อ 2)
2. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรวิชาชีพและผู้แทนองค์กรเอกชน (ร่างข้อ 3)
3. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรวิชาชีพและผู้แทนองค์กรเอกชน (ร่างข้อ 4 ร่างข้อ 5 และร่างข้อ 6)
4. กำหนดให้ดำเนินการสรรหา เลือก และแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรวิชาชีพและผู้แทนองค์กรเอกชน ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ครบวาระ (ร่างข้อ 7)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 พฤษภาคม 2550--จบ--
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า ได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 28 มีนาคม 2549 เสร็จแล้ว โดยแก้ไขในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวคือ กำหนดให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกับปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมควรเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสองเท่าของจำนวนที่กำหนดไว้ เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งตามจำนวนที่กำหนด เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการสรรหาตามร่างฯ ที่เสนอมามีความซับซ้อนหรือเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ และเป็นภาระงบประมาณในการสรรหา ประกอบกับคณะกรรมการนี้ทำหน้าที่ส่งเสริมและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ มิได้ใช้อำนาจในทางปกครองแต่อย่างใด จึงควรที่จะได้บุคคลตามความประสงค์และมีความเหมาะสมแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวน หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาสำหรับบุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 9 คน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 คน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรวิชาชีพ และองค์กรเอกชน แห่งละ 1 คน โดยมีผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาเป็นกรรมการและเลขานุการ (ร่างข้อ 2)
2. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรวิชาชีพและผู้แทนองค์กรเอกชน (ร่างข้อ 3)
3. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรวิชาชีพและผู้แทนองค์กรเอกชน (ร่างข้อ 4 ร่างข้อ 5 และร่างข้อ 6)
4. กำหนดให้ดำเนินการสรรหา เลือก และแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรวิชาชีพและผู้แทนองค์กรเอกชน ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ครบวาระ (ร่างข้อ 7)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 พฤษภาคม 2550--จบ--