คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการขอยุติโครงการศูนย์รวบรวมผักและผลไม้เพื่อการส่งออก (POSSEC) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) รายงานว่า
1. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (26 ธันวาคม 2543) กรมการค้าภายในได้คัดเลือกบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ให้เป็นผู้ดำเนินการศูนย์ POSSEC ซึ่งได้ทำสัญญาร่วมดำเนินการเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยกรมการค้าภายในได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐที่เข้าให้บริการในศูนย์ POSSEC และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของศูนย์ POSSEC เป็นระยะเวลา 5 ปี และผู้ดำเนินการศูนย์ POSSEC มีหน้าที่จัดหาอาคารสถานที่ให้กับหน่วยงานภาครัฐที่จะเข้าให้บริการในศูนย์ POSSEC โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาดำเนินการตามสัญญา รวมทั้งจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการส่งออกสินค้าอย่างเบ็ดเสร็จ
2. ศูนย์ POSSEC ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2547 ซึ่งผลการดำเนินการนับจากวันเปิดให้บริการถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2553 มีการส่งออกสินค้าผ่านศูนย์ POSSEC จำนวน 5,140 Shipments (เฉลี่ยสัปดาห์ละ 16 Shipments) เป็นปริมาณสินค้า 7,877.42 ตัน ประกอบด้วย ผักสด ผลไม้สด โดยประเทศปลายทางที่ส่งออกส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางและยุโรป โดยมีปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการเปิดให้บริการของศูนย์ POSSEC สรุปได้ดังนี้
2.1 ปัจจัยและองค์ประกอบในการส่งออก
ปัจจุบันปัจจัยและองค์ประกอบในการส่งออกผักและผลไม้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งด้านการผลิต การควบคุมคุณภาพ ที่ต้องดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานทางด้านสุขอนามัยตั้งแต่แหล่งผลิต การตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองต่างๆ การบรรจุหีบห่อ กระบวนการในการให้บริการส่งออกที่ให้บริการอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ณ แหล่งผลิตหรือใกล้เคียงแหล่งผลิต ซึ่งทำให้สามารถส่งสินค้าที่ได้ดำเนินกระบวนการเสร็จสมบูรณ์แล้วไปยังจุดส่งออกโดยตรง
2.2 การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ
ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องอัตรากำลัง การจัดเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่ให้บริการส่งออกสินค้าประจำที่ศูนย์ POSSEC ตลอดเวลาไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีภาระงานมาก ส่งผลให้ผู้ส่งออกและตัวแทนส่งออกขาดความมั่นใจ ประกอบกับนโยบายการให้บริการของหน่วยงานที่มีการออกให้บริการนอกสถานที่ ณ แหล่งผลิตในหลาย ๆ จุด และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาให้บริการของส่วนราชการต่างๆ ทำให้มีการเข้าใช้บริการที่ศูนย์ POSSEC น้อย
2.3 การให้บริการของศูนย์ POSSEC
การส่งออกทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าประเภทอื่น ส่วนใหญ่ผู้ส่งออกจะมอบให้ตัวแทนส่งออกเป็นผู้ดำเนินการแทนในขั้นตอนพิธีการส่งออกต่างๆ รวมทั้งจัดซื้อระวางขนส่งสินค้าด้วย การดำเนินพิธีการส่งออกเฉพาะสินค้าเกษตร ณ ศูนย์ POSSEC จะเกิดค่าใช้จ่ายทั้งด้านบุคลากรและขนส่งซ้ำซ้อน ทำให้ไม่จูงใจให้เกิดการเข้าใช้บริการ ณ ศูนย์ POSSEC ประกอบกับศูนย์ POSSEC ไม่สามารถจัดหาระวางสินค้ารองรับการให้บริการส่งออกได้ ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเข้าใช้บริการที่ศูนย์ POSSEC
2.4 การผ่อนผันให้มีการบริการในเขตปลอดอากร (Free Zone)
จากการที่กรมศุลกากรได้ผ่อนผันให้ดำเนินธุรกรรมในขั้นตอนพิธีการส่งออกได้ในเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้หน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าไปให้บริการพิธีการส่งออกเต็มรูปแบบเช่นเดียวกับศูนย์ POSSEC ประกอบกับระยะทางที่ศูนย์ POSSEC ตั้งอยู่ห่างไกลจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ส่งออกและกลุ่มตัวแทนส่งออกที่จะเข้าใช้บริการ ณ ศูนย์ POSSEC
2.5 การดำเนินการซ้ำซ้อนของผู้ให้บริการ Cargo Terminal
ผู้ให้บริการ Cargo Terminal คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ทำการเอ็กซเรย์และชั่งน้ำหนักสินค้าซ้ำอีกครั้งก่อนนำขึ้นระวางบรรทุก โดยแจ้งว่าเพื่อความปลอดภัยใน การบิน ซึ่งเป็นการดำเนินการซ้ำซ้อน ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม เสียเวลา และอาจเกิดความเสียหายต่อสินค้าโดยไม่จำเป็น เมื่อมีการผ่อนผันให้ดำเนินธุรกรรมพิธีการส่งออกได้ในเขตปลอดอากร ผู้ส่งออก และตัวแทนส่งออกจึงไปใช้บริการพิธีการส่งออกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
3. บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด(ตลาดไท) ได้มีหนังสือแจ้งมายังกรมการค้าภายในเพื่อขอยุติบทบาทในฐานะผู้ดำเนินการศูนย์ POSSEC เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2552 และวันที่ 21 มกราคม 2553
4. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบการดำเนินงานการส่งเสริมและพัฒนาระบบตลาดสินค้าเกษตร ภายใต้ภารกิจด้านการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรของกรมการค้าภายใน พณ. ในส่วนของการดำเนินงานของศูนย์ POSSEC นั้น พบว่าการดำเนินงานของศูนย์ POSSEC ยังไม่ประสบความสำเร็จในมิติของประสิทธิผลและประสิทธิภาพ สตง.จึงมีข้อเสนอแนะให้พิจารณายุติการสนับสนุนงบประมาณแก่ศูนย์ POSSEC และยุติการดำเนินงานของศูนย์ POSSEC ดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2553--จบ--