ขออนุมัติขยายเวลาการจัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติงานในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 17, 2010 15:42 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหม ดังนี้

1. ให้หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดขยายเวลาการปฏิบัติภารกิจไปอีก 36 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงฐานทัพเรือสัตหีบ จากเดิมวันที่ 12 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 17 มกราคม 2554

2. ให้คณะนายทหารประสานงานร่วมปฏิบัติงานในกองกำลังผสมทางทะเล ณ ราชอาณาจักรบาห์เรนขยายระยะเวลาการปฏิบัติภารกิจไปอีก 41 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงราชอาณาจักร จากเดิมวันที่ 4 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 14 มกราคม 2554 และอนุมัติให้จัดกำลังพลชุดใหม่ จำนวน 2 นาย เดินทางไปผลัดเปลี่ยนกำลังพลชุดเดิม ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยมีวงรอบผลัดเปลี่ยนทุก 4 เดือน

3. ให้กำลังพล ณ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในพื้นที่เมืองซาลาล่าห์ รัฐสุลต่านโอมาน ขยายระยะเวลาการปฏิบัติภารกิจไปอีก 41 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงราชอาณาจักรไทย จากเดิมวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 15 มกราคม 2554

4. ให้กองทัพเรือสามารถปรับกำลังพล การปฏิบัติ และแผนการเดินทางได้ตามความจำเป็น (ตามข้อ 1-3) และให้ได้รับสิทธิในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณ ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พุทธศักราช 2494 รวมถึงสิทธิในการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉินตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉิน พุทธศักราช 2529 ตลอดช่วงปฏิบัติภารกิจดังกล่าว และให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ถือเป็นการปฏิบัติราชการพิเศษ ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ที่เข้าไปยังพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อการส่งกำลังบำรุง การตรวจเยี่ยมหรือปฏิบัติงานหรือหน้าที่อื่นใดตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มการเคลื่อนย้ายออกจากที่ตั้งปกติหรือประเทศไทยเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในอ่าวเอเดนและ ชายฝั่งโซมาเลีย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งถึงวันที่เสร็จสิ้นภารกิจและเคลื่อนย้ายกลับสู่ที่ตั้งปกติหรือประเทศไทย

ยกเว้นในส่วนของการจัดกำลังของกองทัพเรือไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ดังกล่าวในแต่ละปีจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือมีการยุติการปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองกำลังผสมทางทะเลให้พิจารณาความจำเป็นและ เหมาะสม โดยเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีเป็นคราว ๆ ไป ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจให้กระทรวงกลาโหม (กองทัพเรือ) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงกลาโหม (กห.) รายงานดังนี้

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอนุมัติให้กองทัพเรือจัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด (มปจ.) ปฏิบัติราชการ ระหว่างวันที่ 8 กันยายน 2553 - 15 ธันวาคม 2553 และจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติในพื้นที่ ณ เมืองซาลาล่าห์ รัฐสุลต่านโอมาน ปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2553-5 ธันวาคม 2553

2. กองกำลังผสมทางทะเล (Combined Maritime Forces : CMF) มีหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารเรือขอความร่วมมือในการขยายระยะเวลาการปฏิบัติงานของ มปจ. ร่วมกับกองเรือผสมเฉพาะกิจ 151 (Combined Task Forces 151 : CTF 151) เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่ยังคงความรุนแรงจากกลุ่มโจรสลัดในพื้นที่ปฏิบัติการในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย

3. สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย บริษัท ศิริชัยมารีน ฟิชเชอรี่ จำกัด บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท พี.ที.อินเตอร์ฟิชเชอรี่ จำกัด ได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการทหารเรือขอความอนุเคราะห์กองทัพเรือให้ขยายระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือด้วยอาวุธบริเวณอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียของ มปจ. เพื่อคุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้แก่เรือสินค้าและเรือประมงออกไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

4. สภาพภูมิอากาศในช่วงเดือนธันวาคม 2553-มกราคม 2554 เป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพคลื่นลมสงบ ส่งผลให้มีแนวโน้มที่การปฏิบัติการของโจรสลัดจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางผ่านเส้นทางเดินเรือของเรือสินค้าไทย และการทำประมงนั้นมีแนวโน้มของจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบเช่นกัน ส่งผลให้แนวโน้มสถานการณ์โจรสลัดในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียจะยังคงความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติลงในเวลาอันสั้น

5. ในช่วงเดือนธันวาคม 2553 - มกราคม 2554 จะไม่มีเรือจากกองกำลังของ NATO ลาดตระเวนในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ทำให้กำลังที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์โจรสลัดในพื้นที่

6. การขยายระยะเวลาปฏิบัติการของ มปจ.เพื่อคุ้มครองเรือไทยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นทางทะเล อีกทั้งยังส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งเมื่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือสิ้นสุดลง และไม่มีกำลังทางเรือของกองทัพเรือปฏิบัติการในพื้นที่ประเทศไทยจะยังคงมีคณะนายทหารจากกองทัพเรือทำหน้าที่ประสานในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเรือไทยที่ประสบเหตุได้ทันต่อเหตุการณ์

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ