ดัชนีราคาและผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนตุลาคม 2553 และแนวโน้มเดือนพฤศจิกายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 17, 2010 16:28 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลดัชนีราคาและผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนตุลาคม 2553 และแนวโน้มเดือนพฤศจิกายน 2553 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปได้ดังนี้

สาระสำคัญของเรื่อง

1. ภาพรวมราคาสินค้าเกษตรของเดือนตุลาคม 2553 เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตร สูงขึ้น ร้อยละ 29.07 ซึ่งสูงขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และปศุสัตว์ โดย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาสูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีความต้องการมากขึ้น มันสำปะหลัง ราคาสูงขึ้น เนื่องจาก ผลผลิตลดลง ขณะที่ความต้องการยังคงมีมาก ปาล์มน้ำมัน ราคาสูงขึ้น เนื่องจาก ผลผลิตลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้โรงงานสกัดน้ำมัน แข่งขันกันรับซื้อผลผลิต ยางพารา ราคาสูงขึ้น เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2553 เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบเดือนตุลาคม ในปี 2553 สูงกว่า ตุลาคม 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ดัชนีราคา สูงขึ้น ร้อยละ 1.23 โดยสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และสับปะรดโรงงาน ส่วนสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และปศุสัตว์ ในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าดัชนีราคาจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก ยางพารา และปาล์มน้ำมัน มีฝนตกในแหล่งผลิต ในขณะที่ ราคาข้าวสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงเดือนตุลาคมแหล่งรับซื้อหลายแห่งได้ปิดกิจการชั่วคราว และได้เริ่มดำเนินการในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทำให้ความต้องการของตลาดมีมากขึ้น ประกอบกับแหล่งผลิตในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดในขณะนี้ลดลงกว่าที่ควรจะเป็น

2 ภาพรวมด้านการผลิตสินค้าเกษตร เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาดัชนีผลผลิต ลดลง คิดเป็นร้อยละ 5.85 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และสับปะรดโรงงาน ส่วนสินค้าที่ผลผลิต สูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ดัชนีผลผลิตสูงขึ้น ร้อยละ 4.39 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง สับปะรดโรงงาน สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ส่วนสินค้าที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ในเดือนพฤศจิกายน คาดว่าดัชนีผลผลิตในภาพรวมจะยังคงสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา เพราะมีผลผลิตสินค้าสำคัญหลายชนิดออกสู่ตลาดมากขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี และสับปะรดโรงงาน

3 ผลผลิตออกสู่ตลาดมากเดือนตุลาคม ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในเดือนพฤศจิกายน ผลผลิตที่คาดว่า จะออกสู่ตลาดมาก ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสับปะรด โดยคาดว่าจะออกสู่ตลาด คิดเป็นร้อยละ 47.45 18.25 และ 11.46 ของผลผลิตทั้งหมด ตามลำดับ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ