แต่งตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 17, 2010 17:22 —มติคณะรัฐมนตรี

1. การแต่งตั้งรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอแต่งตั้งรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน 9 คน เนื่องจากรองประธานกรรมการคนที่สองและกรรมการในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพชุดปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งมาจะครบกำหนดวาระในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ตามที่คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพได้สรรหาและเห็นชอบแล้ว โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้ 1. นายวิชัย โชควิวัฒน รองประธานกรรมการคนที่สอง ซึ่งแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีคุณวุฒิด้านการสร้างเสริมสุขภาพและด้านการบริหาร 2. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย 2.1 นายศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการ ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ 2.2 นายสมพร ใช้บางยาง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการพัฒนาชุมชน 2.3 รองศาสตราจารย์จุมพล รอดคำดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการสื่อสารมวลชน 2.4 นางมุกดา อินต๊ะสาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการ ด้านการศึกษา 2.5 นายธงชัย พรรณสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านการกีฬา 2.6 รองศาสตราจารย์ประภาภัทร นิยม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านศิลปวัฒนธรรม 2.7 นายสงขลา วิชัยขัทคะ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการ ด้านกฎหมาย 2.8 นายสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคราชการ ด้านการบริหาร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป

2. การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวม 2 คน ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้

1. นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายยุคล ลิ้มแหลมทอง

2. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทน นายเฉลิมพร พิรุณสาร

ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นไป โดยให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน ตามนัยพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 16 วรรคสอง

3. แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล

คณะรัฐมนตรีอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) รายงานว่า ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2553 แล้ว โดยใช้ชื่อคณะกรรมการชุดนี้ว่า “คณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล” คณะกรรมการฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้แทนจากภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 25 คน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้รับมอบหมาย ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการ รองอธิบดีกรมชลประทานที่ได้รับมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการประกอบด้วย 1) อธิบดีกรมชลประทาน 2) ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หรือ ผู้แทน 3) ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือผู้แทน 4) ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หรือผู้แทน 5) เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทน 6) เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือผู้แทน 7) ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ หรือผู้แทน 8) อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน หรือผู้แทน 9) ผู้แทนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 10) ผู้แทนมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 11) ดร.ศุภวิทย์ เปี่ยมพงศ์สานต์ 12) นายบัณฑร อ่อนคำ 13) นางสุภา ใยเมือง 14) นางสาวพรพนา ก๊วยเจริญ 15) นางผา กองธรรม 16) นายไพฑูรย์ โถทอง 17) นายประดิษฐ์ โกศล 18) นายบุญมี โสภังค์ มีอำนาจหน้าที่พิจารณากลั่นกรองแนวทางตามแผนในการป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูผลกระทบตามผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมโครงการฝายราษีไศลและการแก้ไขผลกระทบอย่างยั่งยืน ที่คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการศึกษาไว้แล้ว ให้นำไปสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งพิจารณาและเสนอการขับเคลื่อนแผนงานในการป้องกันแก้ไข และฟื้นฟู ซึ่งได้รับการเห็นชอบร่วมกันที่มีขั้นตอนปฏิบัติ ระยะเวลา งบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจนแล้ว ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำแผนการขับเคลื่อนที่ได้พิจารณาแล้วเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

4. แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา

คณะรัฐมนตรีอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา ตามที่กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอเพิ่มเติมว่า เห็นควรแต่งตั้งให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ร่วมเป็นรองประธานกรรมการในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา ด้วย

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) รายงานว่า เพื่อแก้ไขปัญหาและให้การดำเนินงานโครงการที่มีผลกระทบกับราษฎรเป็นจำนวนมากเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์การศึกษาผลกระทบทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว กษ. พิจารณาแล้วเห็นชอบตามที่กรมชลประทานเสนอ โดยเห็นควรแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา มีองค์ประกอบดังนี้ รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 13 อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนกลุ่มราษฎรที่คณะกรรมการแต่งตั้ง โดยมี รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการกองกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน และผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้มีอำนาจหน้าที่พิจารณากำหนดราคาค่าทดแทนทรัพย์สินทุกประเภท และให้ความเห็นชอบผลการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทน กำกับ และให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน รวมทั้งแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ปฏิบัติงานอื่นที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการนี้ ตลอดจนแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อมอบหมายให้ดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น ทั้งนี้ ในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ให้กรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงานที่ได้รับแต่งตั้งได้รับค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พักและค่าพาหนะเดินทาง อนุโลมตามระเบียบราชการโดยให้เบิกจ่ายจากกรมชลประทาน

5. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงศึกษาธิการ)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ แต่งตั้ง นางบุญชู ชลัษเฐียร ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเครื่องมือวัดผล (นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ) สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

6. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แต่งตั้ง นางสาวปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน สาขาโรคติดต่ออุบัติใหม่อุบัติซ้ำ) สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

7. การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแจ้งชื่อ นายวรพัฒน์ ทิวถนอม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)

8. การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร แทนนายยุคล ลิ้มแหลมทอง ซึ่งได้เกษียณอายุราชการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นไป ตามที่คณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตรได้คัดเลือกแล้ว ทั้งนี้ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2546 ประกอบมาตรา 19 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542

9. ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ นายอิสรา สุนทรวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ