คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วย การจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2548 ตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า ร่างข้อ 17 ของร่างระเบียบดังกล่าว ได้กำหนดให้บัตรประจำตัวชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย มีอายุ 3 ปี โดยไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับการต่ออายุบัตรดังกล่าวกรณีบัตรหมดอายุไว้ด้วย สมควรจะกำหนดหลักเกณฑ์การต่ออายุบัตรประจำตัวชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยกรณีบัตรหมดอายุไว้ให้ชัดเจน ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ซึ่งร่างระเบียบดังกล่าว เป็นการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ว่าด้วย การจดทะเบียนชาวไร่อ้อยฯ ให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ลดขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวและสามารถดำเนินการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยได้แล้วเสร็จในเวลาอันสั้น และทำให้การบริหารจัดการระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในด้านอ้อยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวม 2 ฉบับคือ ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วย การจดทะเบียนหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย พ.ศ. 2539 และระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วย การจดทะเบียนชาวไร่อ้อย พ.ศ. 2540
2. ให้นายทะเบียนมีหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขทะเบียนชาวไร่อ้อยให้ถูกต้องครบถ้วนอยู่เสมอ และต้องจัดทำรายงานสรุปทะเบียนชาวไร่อ้อยเสนอต่อคณะกรรมการอ้อยในเดือนกันยายนของทุกปี รวมทั้งให้มีอำนาจที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องขอคัดสำเนาหรือถ่ายเอกสาร หรือให้ข้อมูลใดเกี่ยวกับทะเบียนชาวไร่อ้อยได้ โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของทางราชการที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
3. ให้คณะกรรมการอ้อยต้องประกาศให้มีการรับจดทะเบียนชาวไร่อ้อยในทุกห้าปี เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นชาวไร่อ้อยได้สะดวกและชัดเจนแน่นอน รวมทั้งในกรณีที่มีความจำเป็นก็อาจประกาศให้มีการรับจดทะเบียนก่อนถึงกำหนดเวลาห้าปีก็ได้
4. กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นคำขอจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย และหลักฐานประกอบคำขอ
5. ให้คณะอนุกรรมการซึ่งคณะกรรมการอ้อยแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยประจำแต่ละพื้นที่ที่มีการส่งเสริมการปลูกอ้อยพิจารณาคำขอและจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับจดทะเบียนชาวไร่อ้อยให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดการรับคำขอจดทะเบียน และให้ปิดประกาศรายชื่อดังกล่าวไว้ ณ ที่ทำการสถาบันชาวไร่อ้อย โรงงาน และสถานที่อื่นในเขตพื้นที่นั้นตามที่คณะอนุกรรมการเห็นสมควร
6. กำหนดวิธีการและการพิจารณาการคัดค้านเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนให้ชัดเจนและเหมาะสม
7. ให้คณะกรรมการอ้อยมีอำนาจพิจารณาสั่งให้ถอนทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยออกจากทะเบียน เมื่อคณะอนุกรรมการฯ รายงานว่า ผู้นั้นได้กระทำการหรือมีกรณีที่สมควรจะลบชื่อออกไปจากทะเบียน รวม 4 ประการ
8. กำหนดให้กรณีที่ชาวไร่อ้อย หรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยตายและทายาทผู้ได้รับสิทธิในที่ดินประสงค์จะปลูกอ้อยเพื่อส่งโรงงานต่อไป ให้มีหนังสือร้องขอต่อคณะอนุกรรมการแสดงการเป็นทายาทพร้อมด้วยหลักฐานการได้รับสิทธิในที่ดินนั้น เมื่อคณะอนุกรรมการได้รับคำร้องขอแล้วให้ตรวจสอบหลักฐานและอาจสอบถามข้อเท็จจริงจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอเรื่องและความเห็นต่อคณะกรรมการอ้อยเพื่อพิจารณา
9. กำหนดให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของคณะกรรมการอ้อยเกี่ยวกับการแก้ไขทะเบียนชาวไร่อ้อยสามารถยื่นอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อคณะกรรมการบริหารภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับคำสั่งและให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารถือเป็นที่สุด
10. กำหนดบทเฉพาะกาลให้ชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับเป็นผู้ได้รับจดทะเบียนตามระเบียบนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548--จบ--
ซึ่งร่างระเบียบดังกล่าว เป็นการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ว่าด้วย การจดทะเบียนชาวไร่อ้อยฯ ให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ลดขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวและสามารถดำเนินการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยได้แล้วเสร็จในเวลาอันสั้น และทำให้การบริหารจัดการระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในด้านอ้อยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวม 2 ฉบับคือ ระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วย การจดทะเบียนหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย พ.ศ. 2539 และระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วย การจดทะเบียนชาวไร่อ้อย พ.ศ. 2540
2. ให้นายทะเบียนมีหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขทะเบียนชาวไร่อ้อยให้ถูกต้องครบถ้วนอยู่เสมอ และต้องจัดทำรายงานสรุปทะเบียนชาวไร่อ้อยเสนอต่อคณะกรรมการอ้อยในเดือนกันยายนของทุกปี รวมทั้งให้มีอำนาจที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องขอคัดสำเนาหรือถ่ายเอกสาร หรือให้ข้อมูลใดเกี่ยวกับทะเบียนชาวไร่อ้อยได้ โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของทางราชการที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
3. ให้คณะกรรมการอ้อยต้องประกาศให้มีการรับจดทะเบียนชาวไร่อ้อยในทุกห้าปี เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนเป็นชาวไร่อ้อยได้สะดวกและชัดเจนแน่นอน รวมทั้งในกรณีที่มีความจำเป็นก็อาจประกาศให้มีการรับจดทะเบียนก่อนถึงกำหนดเวลาห้าปีก็ได้
4. กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นคำขอจดทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อย และหลักฐานประกอบคำขอ
5. ให้คณะอนุกรรมการซึ่งคณะกรรมการอ้อยแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนชาวไร่อ้อยประจำแต่ละพื้นที่ที่มีการส่งเสริมการปลูกอ้อยพิจารณาคำขอและจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับจดทะเบียนชาวไร่อ้อยให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดการรับคำขอจดทะเบียน และให้ปิดประกาศรายชื่อดังกล่าวไว้ ณ ที่ทำการสถาบันชาวไร่อ้อย โรงงาน และสถานที่อื่นในเขตพื้นที่นั้นตามที่คณะอนุกรรมการเห็นสมควร
6. กำหนดวิธีการและการพิจารณาการคัดค้านเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนให้ชัดเจนและเหมาะสม
7. ให้คณะกรรมการอ้อยมีอำนาจพิจารณาสั่งให้ถอนทะเบียนชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยออกจากทะเบียน เมื่อคณะอนุกรรมการฯ รายงานว่า ผู้นั้นได้กระทำการหรือมีกรณีที่สมควรจะลบชื่อออกไปจากทะเบียน รวม 4 ประการ
8. กำหนดให้กรณีที่ชาวไร่อ้อย หรือหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยตายและทายาทผู้ได้รับสิทธิในที่ดินประสงค์จะปลูกอ้อยเพื่อส่งโรงงานต่อไป ให้มีหนังสือร้องขอต่อคณะอนุกรรมการแสดงการเป็นทายาทพร้อมด้วยหลักฐานการได้รับสิทธิในที่ดินนั้น เมื่อคณะอนุกรรมการได้รับคำร้องขอแล้วให้ตรวจสอบหลักฐานและอาจสอบถามข้อเท็จจริงจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง แล้วเสนอเรื่องและความเห็นต่อคณะกรรมการอ้อยเพื่อพิจารณา
9. กำหนดให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของคณะกรรมการอ้อยเกี่ยวกับการแก้ไขทะเบียนชาวไร่อ้อยสามารถยื่นอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อคณะกรรมการบริหารภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับคำสั่งและให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารถือเป็นที่สุด
10. กำหนดบทเฉพาะกาลให้ชาวไร่อ้อยและหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับเป็นผู้ได้รับจดทะเบียนตามระเบียบนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548--จบ--