เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า โดยที่เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการตรวจสอบหรือสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ และต้องใช้เวลาในการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบมากพอสมควร แต่ขณะนี้ระยะเวลาการทำงานตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับดังกล่าวใกล้จะสิ้นสุดลง ทั้งยังมีเรื่องที่ค้างดำเนินการอยู่ สมควรที่จะต้องขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการตรวจสอบออกไปอีกระยะหนึ่ง โดยให้ดำเนินการเรื่องเดิมที่ค้างให้เสร็จสิ้น โดยไม่ให้มีอำนาจหน้าที่รับเรื่องใหม่มาดำเนินการเพิ่มขึ้นอีก และหากมีเรื่องที่อาจค้างดำเนินการอยู่ในวันที่คณะกรรมการตรวจสอบพ้นจากตำแหน่งก็ให้โอนเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจสอบด้วย จึงเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. ขยายเวลาการตรวจสอบหรือสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบออกไปให้เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจ โดยให้พ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับคณะรัฐมนตรี (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 วรรค 1)
2. จำกัดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบว่าเมื่อครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการตรวจสอบได้รับแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบจะรับหรือเริ่มการตรวจสอบหรือสอบสวนเรื่องใหม่ไม่ได้ คงให้พิจารณาดำเนินการแต่เฉพาะเรื่องที่ยังค้างดำเนินการต่อไปเท่านั้น (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 วรรค 2)
3. กำหนดให้เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบพ้นจากตำแหน่งแล้วให้ส่งมอบสำนวนเรื่องที่ยังค้างดำเนินการอยู่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไปและในการพิจารณาดำเนินการกับเรื่องที่รับโอนมานั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ทั้งปวงเช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจสอบ (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 วรรค 3)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--
ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า โดยที่เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการตรวจสอบหรือสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ และต้องใช้เวลาในการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบมากพอสมควร แต่ขณะนี้ระยะเวลาการทำงานตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับดังกล่าวใกล้จะสิ้นสุดลง ทั้งยังมีเรื่องที่ค้างดำเนินการอยู่ สมควรที่จะต้องขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการตรวจสอบออกไปอีกระยะหนึ่ง โดยให้ดำเนินการเรื่องเดิมที่ค้างให้เสร็จสิ้น โดยไม่ให้มีอำนาจหน้าที่รับเรื่องใหม่มาดำเนินการเพิ่มขึ้นอีก และหากมีเรื่องที่อาจค้างดำเนินการอยู่ในวันที่คณะกรรมการตรวจสอบพ้นจากตำแหน่งก็ให้โอนเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจสอบด้วย จึงเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. ขยายเวลาการตรวจสอบหรือสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบออกไปให้เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจ โดยให้พ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกับคณะรัฐมนตรี (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 วรรค 1)
2. จำกัดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบว่าเมื่อครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการตรวจสอบได้รับแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบจะรับหรือเริ่มการตรวจสอบหรือสอบสวนเรื่องใหม่ไม่ได้ คงให้พิจารณาดำเนินการแต่เฉพาะเรื่องที่ยังค้างดำเนินการต่อไปเท่านั้น (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 วรรค 2)
3. กำหนดให้เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบพ้นจากตำแหน่งแล้วให้ส่งมอบสำนวนเรื่องที่ยังค้างดำเนินการอยู่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไปและในการพิจารณาดำเนินการกับเรื่องที่รับโอนมานั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ทั้งปวงเช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจสอบ (ร่างมาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 วรรค 3)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--