ร่างพระราชกฤษฎีการวมศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 26, 2010 15:08 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีการวมศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่นไปเป็นส่วนราชการ

มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการวมศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่นไปเป็นส่วนราชการมีฐานะเทียบเท่าภาควิชาในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

ข้อเท็จจริง

กระทรวงศึกษาธิการเสนอว่า

1. ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ และเพื่อเป็นศูนย์รวมในการบำบัดผู้ป่วย ศึกษาค้นคว้า วิจัยทางการแพทย์ ด้านการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเป็นส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีฐานะเทียบเท่าคณะ

2. สภามหาวิทยาลัยขอนแก่นพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีประเด็นปัญหาที่สำคัญควรได้รับการแก้ไข 3 ด้าน คือ ด้านโครงสร้าง ด้านระบบบริหารงาน และด้านบุคคล ซึ่งปัญหาดังกล่าวและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากระบบการบริหารงาน ระบบการให้บริการและโครงสร้างการบริหารงานที่มีความบกพร่อง นอกจากนี้ยังพบว่าความร่วมมือระหว่างศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ ในการดำเนินภารกิจการให้บริการรักษาพยาบาล และภารกิจของการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในการผลิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อีกทั้งการผลิตแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดของคณะแพทยศาสตร์จะเกิดข้อจำกัดและไม่สมบูรณ์ หากไม่มีส่วนร่วมจากศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะเดียวกันการให้บริการในการรักษาพยาบาลของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หากไม่มีส่วนร่วมจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ จะมีความจำเป็นในแง่ศักยภาพ คุณภาพ และไม่ครบวงจร ตลอดจนยังไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของมหาวิทยาลัย กล่าวคือ ขาดความเชื่อมโยงและการบูรณาการกับการจัดการเรียนการสอนทั้งการผลิตบัณฑิตสาขาแพทย์ศาสตร์และสาขาทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ และการผลิตผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังทำให้เกิดความสูญเสีย หรือเกิดภาวะทางการเงินและงบประมาณเนื่องจากการบริหารทรัพยากรที่ขาดประสิทธิภาพ จึงได้มีมติให้ปรับปรุงโครงสร้างศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสียใหม่ โดยโอนภารกิจไปสังกัดคณะแพทยศาสตร์ และให้มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา เพื่อให้การบริหารงานของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและโรงพยาบาลศรีนครินทร์มีความเชื่อมโยง มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

3. คณะกรรมการการอุดมศึกษาในการประชุมครั้งที่ 7/2553 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย

4. พิจารณาแล้วเห็นว่า การยุบศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นส่วนราชการระดับคณะ ให้เป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา ไปรวมอยู่ในสังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไปสู่ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และการปรับปรุงส่วนราชการดังกล่าวสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 และวันที่ 26 มกราคม 2553 ที่มีนโยบายให้ขยายเวลาของมาตรการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือขยายหน่วยงานยกเว้นกรณีการยุบ รวม โอน หน่วยงานภายในส่วนราชการเดียวกัน

สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา

1. กำหนดให้ยกเลิกศูนย์หัวใจสิริกิติ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามมาตรา 3 (24) แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทบวงมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2542 (ร่างมาตรา 3)

2. กำหนดให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ พนักงานมหาวิทยาลัย ลูกจ้างและงบประมาณรายจ่ายของศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปเป็นของคณะแพทยศาสตร์ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทบวงมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2542 (ร่างมาตรา 4)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ