เรื่อง ขออนุมัติใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทในสัญญาจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาจ้างที่ปรึกษา
บริหารและควบคุมโครงการ สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2)
โดยเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารโลก
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทในสัญญาจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมโครงการ สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) โดยเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารโลก ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงยุติธรรม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงคมนาคม (คค.) รายงานว่า
1. ร่างสัญญาเงินกู้ของธนาคารพัฒนาเอเชีย โครงการ Greater Mekong Subregion Highway Expansion Project [Know as the Four — Lane Highway Widening Project (Phase 2)] และของธนาคารโลก โครงการ Additional Financing for the Highways Management Project กำหนดให้ดำเนินการจัดจ้างผู้รับเหมางานก่อสร้างและที่ปรึกษาตามเงื่อนไขในแนวปฏิบัติ (Guidelines) ของแหล่งเงินกู้ และตามแบบฟอร์มมาตรฐานสำหรับสัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างและ ที่ปรึกษาทุกประเภท ซึ่งเงื่อนไขในแบบฟอร์มดังกล่าวระบุให้ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาท
2. เนื่องจากกรมทางหลวงต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (17 มีนาคม 2552 และ 8 กันยายน 2552) กรมทางหลวงจึงได้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นในการปรับปรุงเอกสารสัญญาจ้างเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการไปยังธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารโลก แต่แหล่งเงินกู้ดังกล่าวได้ปฏิเสธการยกเว้นไม่ใช้วิธีการอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาท โดยแจ้งว่ารัฐสภาของไทยได้เห็นชอบเอกสารสัญญาเงินกู้ที่ระบุว่า การจ้างก่อสร้างและการจ้างที่ปรึกษาจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของแหล่งเงินกู้แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับโครงการดังกล่าวกับธนาคารพัฒนาเอเชียและธนาคารโลกแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2553 โดยเงินกู้ธนาคารพัฒนาเอเชียมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2553 ส่วนเงินกู้ธนาคารโลกมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2553
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--