คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 40 ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ประกอบด้วย สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร สถานการณ์น้ำ การช่วยเหลือด้านการเกษตร และผลกระทบด้านการเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร
ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งประเทศ 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี เป็นพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ (24 พฤศจิกายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 55,410 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด ลดลงจากสัปดาห์ก่อน(55,923 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 513 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 31,569 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (58,482 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 80) จำนวน 3,072 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างจำนวน 64.07 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 105.08 ล้านลูกบาศก์เมตร
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (24 พฤศจิกายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 51,874 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด ลดลงจากสัปดาห์ก่อน(52,336 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 462 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 28,351 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (55,277 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 79) จำนวน 3,403 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างจำนวน 62.42 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 102.10 ล้านลูกบาศก์เมตร
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์
หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำ ปริมาตรน้ำ ปริมาณน้ำ ปริมาณน้ำ ปริมาณน้ำ ในอ่างปี ใช้การได้ ไหลลงอ่าง ระบาย รับได้อีก ปริมาตรน้ำ % ปริมาตรน้ำ % วันนี้ เมื่อวาน วันนี้ เมื่อวาน 1.ภูมิพล 8,754 65 4,954 37 12.92 11.4 5 10.5 4,708 2.สิริกิติ์ 7,803 82 4,953 52 7.78 7.81 6.97 7 1,707 ภูมิพล+สิริกิติ์ 16,557 72 9,907 43 20.7 19.21 11.97 17.5 6,415 3.แควน้อยฯ 759 99 723 94 0.32 0.67 3.48 3.46 10 4.ป่าสักชลสิทธิ์ 874 91 871 91 0 1.31 13.9 13.07 86 รวม 4 อ่างฯ 18,190 74 11,501 47 21.01 21.19 29.35 34.03 6,511
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 22 อ่าง ดังนี้
หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหล ปริมาณน้ำระบาย ปริมาณน้ำรับได้อีก ลงอ่าง ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % ความจุ วันนี้ เมื่อ วันนี้ เมื่อ น้ำ อ่างฯ น้ำ อ่างฯ วาน วาน 1.สิริกิติ์ 7,803 82 4,953 52 7.78 7.81 7.06 7 1,707 2.แม่งัดฯ 272 103 250 94 0.47 0 0.41 0.65 0 3.กิ่วลม 103 92 99 88 1.48 3.16 1 2.56 9 4.กิ่วคอหมา 191 112 185 109 0.48 1.09 0.21 1.65 0 5.แควน้อยฯ 759 99 723 94 0.32 0.67 3.46 3.46 10 6.ห้วยหลวง 123 104 118 100 0 0.03 0.05 0.05 0 7.จุฬาภรณ์ 163 99 119 73 0.2 0.52 1.03 1.03 0 8.อุบลรัตน์ 2,383 98 1,802 74 0.26 0 22.3 25.63 0 9.ลำปาว 1,248 87 1,163 81 1.12 0 1.12 0.97 182 10. ลำตะคอง 345 110 318 101 0.94 0.95 1.07 1.04 0 11.ลำพระเพลิง 105 95 104 94 0.05 0.19 0.37 0.52 4 12.มูลบน 115 82 108 77 0 0 0 0 26 13.ลำแซะ 244 89 237 86 0 0 0 0 31 14.สิรินธร 1,590 81 759 39 0.83 0.83 0 0 376 15.ป่าสักฯ 874 91 871 91 0 1.31 13.9 13.07 86 16.ทับเสลา 161 101 153 96 0.09 0.32 0.26 0.32 0 17.กระเสียว 247 103 207 86 0.24 0.67 0.06 0.84 0 18.ขุนด่านฯ 217 97 212 95 0.08 0.07 0.17 0.17 7 19.คลองสียัด 412 98 382 91 0 0 1 0.5 8 20.บางพระ 95 81 83 71 0.07 0.14 0.08 0.07 22 21.หนองปลาไหล 162 99 148 91 0.16 0.17 0.38 0.39 2 22.ประแสร์ 244 98 224 90 0.09 0.09 0.21 0.21 4
2. สภาพน้ำท่า
ปริมาณน้ำในลำน้ำต่างๆ ตามสถานีสำรวจปริมาณน้ำท่า กรมชลประทาน พบว่ามีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้น แม่น้ำมูล อำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำท่วม
ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 1,056 ลบ.ม./วินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 37 ลบ.ม./วินาที)
ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 818 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 15ลบ.ม./วินาที)
รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 230 ลบ.ม./วินาที (เท่ากับเมื่อวาน) และ รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 224 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม./วินาที)
ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 206 ลบ.ม./วินาที(เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 87 ลบ.ม./วินาที)
การช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. แจ้งเตือนพื้นที่น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2553 จำนวน 1 ฉบับ
2. สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก ดังนี้
2.1 เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 552 เครื่อง ในพื้นที่ 38 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 4 จังหวัด จำนวน 19 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 82 เครื่อง ภาคกลาง 14 จังหวัด 305 เครื่อง ภาคตะวันออก 1 จังหวัด จำนวน 4 เครื่อง ภาคใต้ 8 จังหวัด จำนวน 142 เครื่อง
2.2 เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 84 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี (17) กรุงเทพฯ(7) พระนครศรีอยุธยา (17) นครปฐม(20) สงขลา(23)
2.3 รถบรรทุก จำนวน 5 คัน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา(5 คัน)
2.4 รถแบ็คโฮ จำนวน 21 คัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี(21 คัน)
2.5 รถบรรทุกเทท้าย 6 ตัน จำนวน 6 คัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี(6 คัน)
3. สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ จำนวน 3,001,625 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 637,795 กิโลกรัม) แร่ธาตุและเวชภัณฑ์ 6,691 ชุด (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 2,693 ชุด) และดูแลสุขภาพสัตว์ 557,333 ตัว (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 47,687 ตัว)
ผลกระทบด้านการเกษตร
ด้านพืช แบ่งเป็น 3 ช่วงภัย
1. ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ต.ค. 53) ประสบภัย จำนวน 54 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย 2,757,236 ไร่ ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 19 พ.ย.53) พบว่าพื้นที่เสียหายแล้ว 1,137,460 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 1,047,476 ไร่ พืชไร่ 77,439 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 12,545 ไร่ เกษตรกร 120,319 ราย
2. ช่วงภัยวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 19 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ย. 53 ยกเว้น ภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 51 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย 7,270,667 ไร่ แยกเป็น ข้าว 5,532,936 พืชไร่ 1,544,390 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 193,351 ไร่ เกษตรกร 597,775 ราย
3. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้ และไม่รวมพื้นที่ความเสียหายของยางพารา) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัด กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ระนอง พัทลุง ปัตตานี ยะลา สุราษฎร์ธานี สตูล สงขลาคาดว่าจะเสียหาย 900,757 ไร่ แยกเป็น ข้าว 374,375 พืชไร่ 39,763 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 486,619 ไร่ เกษตรกร 331,732 ราย
พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย (ยางพารา) ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พ.ย. 53) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดนราธิวาส กระบี่ พัทลุง ปัตตานี สตูล สงขลา ชุมพร ระนอง ยะลา ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะเสียหาย 212,074 ไร่
ช่วงภัย เกษตรกร (ราย) พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย (ไร่) ข้าว พืชไร่ พืชสวน รวมทั้งสิ้น 1 ส.ค. - 30 ก.ย.53 293,947 2,441,369 283,617 32,250 2,757,236 1 ต.ค. — 19 พ.ย.53 597,775 5,532,936 1,544,390 193,351 7,270,677 1 พ.ย. — ปัจจุบัน (ไม่รวมยางพารา) 331,732 374,375 39,763 486,619 900,757 ยางพารา 1 พ.ย.— ปัจจุบัน(ภาคใต้) - - - 212,074 212,074 รวม 1,223,454 8,348,680 1,867,770 924,294 11,140,744
ด้านประมง แบ่งเป็นความเสียหายเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเรือประมง ดังนี้
1. พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วงภัย
1.1 ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 10 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พ.ย. 53 ยกเว้นภาคใต้) ประสบภัยทั้งสิ้น 55 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 148,563 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 580,306 ตารางเมตร เกษตรกร 89,799 ราย ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 23 พ.ย. 53) พบว่าพื้นที่เพาะเลี้ยงเสียหายแล้ว 19,116 ไร่ และ 14,342 ตารางเมตร
1.2 ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดชุมพร พัทลุง พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส คาดว่าจะเสียหาย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 26,979 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 152,330 ตารางเมตร เกษตรกร 21,204 ราย
ช่วงภัย จำนวน เกษตรกร พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย จังหวัด (ราย) ไร่ ตรม. 1 ส.ค.— 23 พ.ย. 53 55 89,799 148,563 580,306 1 พ.ย. - ปัจจุบัน 12 21,204 26,979 152,330 รวม 67 111,003 175,542 732,636
2. เรือประมง
ช่วงภัย วันที่ 31 ตุลาคม ถึง 12 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 53) ประสบภัย 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี กระบี่ ตรัง พัทลุง ชุมพร จำนวน 1,096 ลำ แบ่งเป็น เรือประมงพานิช 67 ลำ เรือประมงพื้นบ้าน 1,029 ลำ
ด้านปศุสัตว์ แบ่งเป็น 2 ช่วงภัย
1. ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ถึง 11 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 53 ยกเว้น ภาคใต้) ประสบภัยทั้งสิ้น 41 จังหวัด คาดว่าจะเสียหาย เกษตรกร 160,194 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 22,366,676 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 433,857 ตัว สุกร 444,160 ตัว แพะ-แกะ 24,924 ตัว สัตว์ปีก 21,463,735 ตัว แปลงหญ้า 39,407 ไร่
2. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พังงา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี นราธิวาส สงขลา กระบี่ ยะลา ชุมพร สุราษฎร์ธานี คาดว่าจะเสียหาย เกษตรกร 115,025 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 5,360,066 ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ 259,074 ตัว สุกร 237,172 ตัว แพะ - แกะ 52,026 ตัว สัตว์ปีก 4,811,794 ตัว แปลงหญ้า 6,305 ไร่
ช่วงภัย เกษตรกร คาดว่าจะเสียหาย (ตัว) (ราย) โค-กระบือ สุกร แพะ-แกะ สัตว์ปีก รวม แปลงหญ้า (ไร่) 1 ส.ค. — 22 พ.ย.53 160,194 433,857 444,160 24,924 21,463,735 22,366,676 39,407 1 พ.ย. - ปัจจุบัน 115,025 259,074 237,172 52,026 4,811,794 5,360,066 6,305 รวม 275,219 692,931 681,332 76,950 26,275,529 27,726,742 45,712
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553--จบ--