คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้นำมันสำปะหลังเส้นในสต็อกของรัฐบาลในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) มาจำหน่ายเป็นการทั่วไป ตามมติคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง ครั้งที่ 8/2553 (ครั้งที่ 21) วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการนโยบายมันสำปะหลังเสนอ โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่ากระทรวงพาณิชย์ควรดำเนินการให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดและราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเป็นประโยชน์และลดภาระของภาครัฐมากที่สุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง รายงานว่า
1. สถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในปี 2551/52 ขณะนั้นประสบปัญหาราคาตกต่ำ จึงมีนโยบายให้ระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งในตลาดทั่วไปและในตลาด AFET เพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการจำหน่าย รวมทั้งใช้เป็นเกณฑ์ราคาเปรียบเทียบจากการจำหน่าย และส่งเสริมให้มีการซื้อขายในตลาด AFET ด้วย
2. คณะอนุกรรมการด้านการตลาดมันสำปะหลังภายใต้คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังได้แต่งตั้งคณะทำงานจำหน่ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเส้นในสต็อกของรัฐบาลในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานคณะทำงาน มีอำนาจหน้าที่พิจารณากำหนดแนวทางในการจำหน่ายมันสำปะหลังเส้นในสต็อกของรัฐบาล โดยใช้กลไกในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ด้วยวิธีการประมูลแบบใช้ส่วนต่างของราคาที่ผู้ประมูลยินดีจ่ายกับราคามันสำปะหลังเส้นในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (Basis) โดยองค์การคลังสินค้าได้ประกาศจำหน่ายมันสำปะหลังเส้นดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 และเสนอคณะอนุกรรมการด้านการตลาดมันสำปะหลังพิจารณาเห็นชอบส่วนต่างราคามันสำปะหลังเส้น ที่ส่วนต่างราคา + 0.05 ถึง + 0.45 บาท/กก. ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ มีมติให้ชะลอการจำหน่ายไว้ก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 2552/53 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคา
3. คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง ในคราวประชุมครั้งที่ 8/2553 (ครั้งที่ 21) วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 มีมติเห็นชอบให้นำมันสำปะหลังเส้นในสต็อกของรัฐบาลตามที่ให้จำหน่ายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) มาจำหน่ายเป็นการทั่วไป เนื่องจากสถานการณ์ตลาดและราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเปลี่ยนแปลงจากปี 2551/52 ประกอบกับผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีการเก็บรักษามานานคุณภาพอาจเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอื่น ๆ เพิ่มขึ้น และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ให้คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังนำผลการพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี ก่อนที่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่จะดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2553--จบ--