คณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องการผลิตบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เสนอ และมีความเห็นว่า
1. เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการได้รับบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ไว้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในส่วนของผู้ยื่นคำขอมีบัตรฯ เนื่องจากบัตรเดิมหมดอายุหรือเปลี่ยนบัตรใหม่ ผู้ที่ยื่นขอมีบัตรฯ ครั้งแรกไว้แล้ว และปัจจุบันยังต้องใช้ใบรับคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน (บัตรเหลือง) แทน และผู้ที่กำลังจะครบกำหนดต้องยื่นคำขอมีบัตรฯ ครั้งแรก
2. เพื่อเป็นการประหยัดและลดภาระงบประมาณของรัฐในการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้
3. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่นกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ได้ยืนยันว่าการดำเนินการจัดหาบัตรฯ ดังกล่าว กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรมการปกครอง) อย่างถูกต้องตามระเบียบ ข้อกฎหมาย และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปตาม TOR (Terms of Reference) ที่กำหนดแล้ว
ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงลงมติเห็นชอบให้ดำเนินการตามแนวทางที่ 2 ที่ให้แก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 22 (พ.ศ. 2550) เพื่อรองรับบัตรจำนวน 26 ล้านใบ ที่กรมการปกครองได้ออกให้ประชาชนไปแล้ว และแก้ไขในส่วน Micro Text รูปแบบครุฑ และรายการอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อรองรับบัตร จำนวน 9 ล้านใบ ที่ ทก.ได้ว่าจ้างให้บริษัทเอกชนคู่สัญญาผลิตไปแล้ว และบริษัทจะสามารถผลิตบัตรส่วนที่เหลืออีก 17 ล้านใบ ได้ทันที ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการกำหนดบทเฉพาะกาลไปพิจารณาดำเนินการด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 ธันวาคม 2553--จบ--