การขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 8, 2010 16:23 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทย

และกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการอวกาศ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอทั้ง 2 ข้อ ดังนี้

1. ให้กระทรวงกลาโหมจัดทำบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยและกะทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการอวกาศ

2. ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ตามข้อ 1

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงกลาโหม (กห.) รายงานว่า

1. กระทรวงกลาโหมมีความประสงค์ที่จะจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการอวกาศ (Memorandum of Understanding between the Ministry of Defence of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Defence of the Italian Republic on Defence Cooperation in Aerospace Technology) เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ตลอดจนความร่วมมือทางด้านการทหารและความมั่นคงระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอิตาลีให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

2. สรุปสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังนี้

2.1 ส่งเสริมความร่วมมือด้านการฝึกอบรมภาพถ่ายดาวเทียมและเทคนิคในการดำเนินโครงการสถานีรับสัญญาณภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อวัตถุประสงค์ในด้านการป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทย

2.2 กระทรวงกลาโหมแห่งสาธารณรัฐอิตาลี จะให้การพิจารณาการร้องขอข้อมูลใดๆ จากกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่เห็นสมควร ดังนี้

2.2.1 ข้อมูลทางเทคนิคสำหรับการจัดตั้งสถานีรับสัญญาณภาพถ่ายดาวเทียม

2.2.2 ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม

2.2.3 คำปรึกษาทางเทคนิคเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านกิจการอวกาศ

2.2.4 ด้านการป้องกันประเทศ โครงการการให้ความช่วยเหลือในการให้การศึกษา การอบรมและสัมมนาในเรื่องเทคโนโลยีด้านกิจการอวกาศ

2.2.5 ข้อมูล และเอกสารด้านเทคโนโลยีด้านกิจการอวกาศ

2.2.6 ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ตามที่คู่ภาคีมีความเห็นชอบร่วมกัน

2.3 บันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับนับแต่วันที่ลงนามและจะยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปเป็นเวลา 5 ปี หากภาคีฝ่ายหนึ่งมิได้แจ้งยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน ก่อนวันหมดอายุของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับต่อไปอีก 5 ปี โดยอัตโนมัติ

2.4 การยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะไม่กระทบต่อความร่วมมือที่กำลังดำเนินอยู่ก่อนการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ

3. ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวมีลักษณะเป็นความตกลงระหว่างประเทศที่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการให้มีผลผูกพัน (ก่อนลงนาม) และในประเด็นที่ว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่จะต้องขอความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่ นั้น กระทรวงกลาโหมมีความเห็นว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มิได้มีข้อความส่วนใดที่จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญา หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีความผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด และกระทรวงกลาโหมสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้เป็นไปตามหนังสือสัญญา ดังนั้น ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จึงไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 ธันวาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ