คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 42 ของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร สถานการณ์น้ำ การช่วยเหลือด้านการเกษตร และผลกระทบด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร
ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งประเทศ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง
จังหวัดพัทลุง สถานการณ์น้ำท่วมขัง เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 53 เกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณฝนสูงสุดที่อ่างเก็บน้ำ ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม วัดได้ 109.5 มม. ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอป่าบอน(ตำบลป่าบอน) บางแก้ว(ตำบลนาปะขอ ท่ามะเดื่อ) เขาชัยสน (ตำบลเขาชัยสน หารโพธิ์ จองถนน) ควนขนุน (ตำบลชะมวง พนางตุง มะกอกเหนือ) ป่าพะยอม (ตำบลบ้านพร้าว ป่าพะยอม) เมือง (ตำบลโคกชะงาย พญาขัน ปรางหมู่ ชัยบุรี ลำปำ) ตะโหมด (ตำบลคลองใหญ่) ปากพะยูน (ตำบลเกาะนางคำ) ระดับน้ำท่วมสูง 0.30-0.80 เมตร
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ (3 ธันวาคม 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 55,021 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด ลดลงจากสัปดาห์ก่อน(55,187 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 389 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 31,180 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 42 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (57,899 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 79) จำนวน 2,878 ล้านลูกบาศก์เมตร
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (3 ธันวาคม 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 51,508 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด ลดลงจากสัปดาห์ก่อน(51,678 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 170 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำใช้การได้ 27,985 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่าง) น้อยกว่าปี 2552 (54,731 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 79) จำนวน 3,223 ล้านลูกบาศก์เมตร
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์
หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำ ปริมาตรน้ำ ปริมาณน้ำ ปริมาณน้ำ ปริมาณน้ำ ในอ่างปี ใช้การได้ ไหลลงอ่าง ระบาย รับได้อีก ปริมาตรน้ำ % ปริมาตรน้ำ % วันนี้ เมื่อวาน วันนี้ เมื่อวาน 1.ภูมิพล 8,781 65 4,981 37 8.03 10.54 5 5 4,681 2.สิริกิติ์ 7,779 82 4,929 52 10.04 0 6.92 6.97 1,731 ภูมิพล+สิริกิติ์ 16,560 72 9,910 43 18.07 10.54 11.92 11.97 6,412 3.แควน้อยฯ 746 97 710 92 1.61 0.89 2.59 2.59 23 4.ป่าสักชลสิทธิ์ 852 89 849 88 1.43 0 0.89 0.89 108 รวม 4 อ่างฯ 18,158 74 11,469 46 21.11 11.43 15.4 15.45 6,543
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 21 อ่าง ดังนี้
หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหล ปริมาณน้ำระบาย ปริมาณน้ำรับได้อีก ลงอ่าง ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % ความจุ วันนี้ เมื่อ วันนี้ เมื่อ น้ำ อ่างฯ น้ำ อ่างฯ วาน วาน 1.สิริกิติ์ 7,779 82 4,929 52 10.04 0 6.92 6.97 1,731 2.แม่งัดฯ 272 103 250 94 0.53 0.56 0.31 0.34 0 3.กิ่วลม 105 94 101 90 3.42 3.46 3.56 3.56 7 4.กิ่วคอหมา 182 107 176 104 0.52 0.38 1.65 1.65 0 5.แควน้อยฯ 746 97 710 92 1.61 0.89 2.59 2.59 23 6.ห้วยหลวง 121 103 116 98 0 0 0.05 0.05 0 7.จุฬาภรณ์ 157 96 113 69 0.22 0.2 0.09 0.17 7 8.อุบลรัตน์ 2,287 94 1,706 70 0 3.23 9.11 9.22 145 9.ลำปาว 1,237 87 1,152 81 1.75 0 1.75 1.69 193 10.ลำตะคอง 344 110 317 101 0.86 1.3 0.73 0.79 0 11.ลำพระเพลิง 106 96 105 95 0 0 0 0 3 12.มูลบน 116 82 109 77 0 0 0 0 25 13.ลำแซะ 244 89 237 86 0 0 0 0 31 14.ป่าสักฯ 852 89 849 88 1.43 0 0.89 0.89 108 15.ทับเสลา 161 101 153 96 0.06 0.16 0.99 0.16 0 16.กระเสียว 247 103 207 86 0.81 0.07 0.63 0.63 0 17.ขุนด่านฯ 214 96 209 93 0.08 0.07 0.71 0.17 10 18.คลองสียัด 398 95 368 88 0 0 1.65 1.65 22 19.บางพระ 95 81 83 71 0 0.08 0.08 0.07 22 20.หนองปลาไหล 162 99 148 91 0 0 0.33 0.34 2 21.ประแสร์ 240 97 220 89 0.01 0.08 0.13 0.2 8
2. สภาพน้ำท่า
ปริมาณน้ำในลำน้ำปิง วัง ยม และน่าน ตามสถานีสำรวจปริมาณน้ำท่า กรมชลประทาน พบว่ามีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 503 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 41 ลบ.ม./วินาที)
ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 139 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 29 ลบ.ม./วินาที)
รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 194 ลบ.ม./วินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 18 ลบ.ม./วินาที) และรับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 218 ลบ.ม./วินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 2 ลบ.ม./วินาที)
ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 5 ลบ.ม./วินาที (เท่ากับเมื่อวาน)
การช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. แจ้งเตือนพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน — 3 ธันวาคม 2553 จำนวน 1 ฉบับ พื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง และสงขลา
2. สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก ดังนี้
2.1 เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 454 เครื่อง ในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 3 จังหวัด จำนวน 6 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 72 เครื่อง ภาคกลาง 13 จังหวัด 239 เครื่อง ภาคตะวันออก 1 จังหวัด จำนวน 4 เครื่อง ภาคใต้ 8 จังหวัด จำนวน 133 เครื่อง
2.2 เครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 75 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี (2) สุพรรณบุรี (17) กรุงเทพฯ (7)พระนครศรีอยุธยา(6) นครปฐม(20) สงขลา(23)
2.3 รถบรรทุก จำนวน 5 คัน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา(5 คัน)
2.4 รถแบ็คโฮ จำนวน 21 คัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี(21 คัน)
2.5 รถบรรทุกเทท้าย 6 ตัน จำนวน 6 คัน ได้แก่ จังหวัดลพบุรี(6 คัน)
3. สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ จำนวน 3,043,105 กิโลกรัม (เท่าเดิมจากสัปดาห์ที่ผ่านมา) แร่ธาตุและเวชภัณฑ์ 6,834 ชุด (เท่าเดิมจากสัปดาห์ที่ผ่านมา) และดูแลสุขภาพสัตว์ 593,575 ตัว (เท่าเดิมจากสัปดาห์ที่ผ่านมา)
ผลกระทบด้านการเกษตร
ด้านพืช แบ่งเป็น 3 ช่วงภัย
1. ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ต.ค. 53) ประสบภัย จำนวน 53 จังหวัด พื้นที่ประสบภัย 2,757,236 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 2,441,369 ไร่ พืชไร่ 283,617 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 32,250 ไร่ เกษตรกร 293,947 ราย
2. ช่วงภัยวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 3 ธันวาคม 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธ.ค. 53 ยกเว้น ภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 52 จังหวัด พื้นที่ประสบภัย 7,291,936 ไร่ แยกเป็น ข้าว 5,549,132 ไร่ พืชไร่ 1,542,274 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 200,530 ไร่ เกษตรกร 602,781 ราย
3. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง 3 ธันวาคม 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 3. ธ.ค. 53 เฉพาะภาคใต้ และไม่รวมพื้นที่ความเสียหายของยางพารา) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัด กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ระนอง พัทลุง ปัตตานี ยะลา สุราษฎร์ธานี สตูล สงขลาพื้นที่ประสบภัย 900,821 ไร่ แยกเป็น ข้าว 374,375 พืชไร่ 39,763 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 486,683 ไร่ เกษตรกร 331,732 ราย
พื้นที่ประสบภัย (ยางพารา) ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง 3 ธันวาคม 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธ.ค. 53) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ พัทลุง ปัตตานี สตูล สงขลา ชุมพร ระนอง ยะลา ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี นราธิวาส พื้นที่ประสบภัย 212,074 ไร่
ช่วงภัย จำนวน เกษตรกร พื้นที่ประสบภัย (ไร่) จังหวัด (ราย) ข้าว พืชไร่ พืชสวน รวมทั้งสิ้น 1 ส.ค. - 30 ก.ย.53 53 293,947 2,441,369 283,617 32,250 2,757,236 1 ต.ค. — 3 ธ.ค.53 52 602,781 5,549,132 1,542,274 200,530 7,291,936 1 พ.ย. — 3 ธ.ค.53 12 331,732 374,375 39,763 486,683 900,821 (เฉพาะภาคใต้และไม่ รวมยางพารา) 1 พ.ย.— 3 ธ.ค.53 12 - - - 316,555 316,555 (เฉพาะยางพารา) รวม 1,228,460 8,364,876 1,865,654 1,036,018 11,266,548
จากพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด จำนวน 11.26 ล้านไร่ สำรวจแล้ว พบว่า เป็นพื้นที่เสียหายสิ้นเชิง (ณ วันที่ 3 ธ.ค. 53) จำนวน 4.03 ล้านไร่ คิดเป็นเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 9,052.52 ล้านบาท กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 53 โดยขออนุมัติเงินงวดจากสำนักงบประมาณแล้ว 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พิษณุโลก น่าน สุโขทัย เพชรบูรณ์ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร ขอนแก่น มุกดาหาร เกษตรกร 36,758 ราย พื้นที่เสียหาย 343,625 ไร่ เป็นเงิน 751,160,787 บาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ
ด้านประมง แบ่งเป็นความเสียหายเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเรือประมง ดังนี้
1. พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วงภัย
1.1 ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม 2553 — 3 ธันวาคม 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธ.ค. 53 ยกเว้นภาคใต้) ประสบภัยทั้งสิ้น 55 จังหวัด เป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 161,397 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 130,229 ตารางเมตร เกษตรกร 94,328 ราย
1.2 ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง 3 ธันวาคม 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธ.ค. 53 เฉพาะภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัด ชุมพร พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 30,208 ไร่ และกระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 156,472 ตารางเมตร เกษตรกร 22,732 ราย
ช่วงภัย จำนวน เกษตรกร พื้นที่ประสบภัย จังหวัด (ราย) ไร่ ตรม. 1 ส.ค.— 3 ธ.ค.53 55 94,328 161,397 130,229 1 พ.ย. — 3 ธ.ค. 53 12 22,732 30,208 156,472 (เฉพาะภาคใต้) รวม 117,060 191,605 286,701
จากพื้นที่ประสบภัยข้างต้น ได้ดำเนินการสำรวจแล้ว (ณ วันที่ 3 ธ.ค. 53) พบว่าพื้นที่เพาะเลี้ยงเสียหายแล้ว 125,612 ไร่ และ 130,059 ตารางเมตร กรมประมง ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 53 โดยขออนุมัติเงินงวดจากสำนักงบประมาณแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยนาท และฉะเชิงเทรา เกษตรกร 5,824 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหาย 4,852 ไร่ คิดเป็นเงินช่วยเหลือ 15,324,144 บาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ
2. เรือประมง ช่วงระหว่าง วันที่ 31 ตุลาคม — 12 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 53) ประสบภัยพิบัติทั้งสิ้น 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี กระบี่ ตรัง พัทลุง ชุมพร จำนวน 1,096 ลำ แบ่งเป็น เรือประมงพานิช 67 ลำ เรือประมงพื้นบ้าน 1,029 ลำ
ด้านปศุสัตว์ แบ่งเป็น 2 ช่วงภัย
1. ช่วงภัย วันที่ 1 สิงหาคม 2553 - 30 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 53 ยกเว้นภาคใต้) ประสบภัยทั้งสิ้น 42 จังหวัด เกษตรกร 164,264 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 22,378,836 ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ 436,264 ตัว สุกร 444,217 ตัว แพะ - แกะ 30,294 ตัว สัตว์ปีก 21,473,431 ตัว แปลงหญ้า 39,512 ไร่
2. ช่วงภัยวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง 30 พฤศจิกายน 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 53 เฉพาะภาคใต้) ประสบภัย จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พังงา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี นราธิวาส สงขลา กระบี่ ยะลา ชุมพร สุราษฎร์ธานี เกษตรกร 115,025 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 5,360,066 ตัว แบ่งเป็น โค - กระบือ 259,074 ตัว สุกร 237,172 ตัว แพะ - แกะ 46,656 ตัว สัตว์ปีก 4,811,794 ตัว แปลงหญ้า 6,305 ไร่
ช่วงภัย เกษตรกร ประสบภัย (ราย) โค-กระบือ สุกร แพะ-แกะ สัตว์ปีก รวม แปลงหญ้า (ไร่) (ตัว) (ตัว) (ตัว) (ตัว) (ตัว) 1 ส.ค. — 30 พ.ย.53 164,264 436,264 444,217 30,294 21,473,431 22,378,836 39,512 1 พ.ย. — 30 พ.ย.53 115,025 259,074 237,172 46,656 4,811,794 5,360,066 6,305 (เฉพาะภาคใต้) รวม 279,289 695,338 681,389 76,950 26,285,225 27,738,902 45,817
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 ธันวาคม 2553--จบ--