เรื่อง โครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ระยะที่ 3 พ.ศ. 2553-2555 ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์
การทำสวนยาง มาตรา 21 ทวิ
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ระยะที่ 3 พ.ศ. 2553-2555 ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มาตรา 21 ทวิ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้ใช้เงินจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับดำเนินงานปีแรกในพื้นที่ 200,000 ไร่ วงเงินดำเนินการปีแรกจำนวน 580,708 ล้านบาท ส่วนในปีต่อๆ ไปให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณประจำปีสนับสนุน โดยให้กระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แปรญัตติร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .....
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 เห็นชอบในหลักการโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ ระยะที่ 3 พ.ศ. 2553-2555 ตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง มาตรา 21 ทวิ โดยในส่วนของงบประมาณดำเนินการค่าปัจจัยการผลิตในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาใช้จ่ายจากเงินรายได้ที่เก็บจากผู้ส่งยางออกนอกราชอาณาจักร (Cess) นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์ การทำสวนยาง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2530 (ข้อ 4.1) ขณะเดียวกันการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวเป็นการสงเคราะห์ผู้ซึ่งไม่มีสวนยางมาก่อนและมีที่ดินเป็นของตนเองไม่น้อยกว่าสองไร่ ซึ่งตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง พ.ศ. 2503 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2530 บัญญัติให้ใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนหรือ เงินงบประมาณประจำปีหรือเงินกู้ที่รัฐบาลจัดให้เท่านั้น ประกอบกับระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 นั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากขณะนี้ล่วงเลยปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 แล้ว สมควรปรับระยะเวลาดำเนินโครงการเป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2556 จึงจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาทบทวน มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 ธันวาคม 2553--จบ--