คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสรุปสถานการณ์ภัยหนาว และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2553) ของกระทรวงมหาดไทย ดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
สถานการณ์ภัยหนาว และการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 20 ธันวาคม 2553)
1. การคาดหมายลักษณะอากาศ (ระหว่างวันที่ 20 - 25 ธ.ค. 2553)
1.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ในช่วงวันที่ 20-22 ธันวาคม 2553 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีอากาศหนาวเย็น ประกอบกับในช่วงวันที่ 20-21 ธันวาคม 2553 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยยังมีกำลังค่อนข้างแรง
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ธันวาคม 2553 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง โดยมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศา และมีลมแรง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนัก ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
1.2 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีโทรสารด่วนที่สุด ที่ มท 0616/ว 13434 ลงวันที่ 17 ธ.ค. 2553 แจ้งเตือนในช่วงระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค. 2553 ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 (สุราษฎร์ธานี) เขต 12 (สงขลา) เขต 18 (ภูเก็ต) และจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และจังหวัดตรัง เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาวะฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยอาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนพืชผลทางการเกษตรของประชาชน โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์
2. การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวของกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว ปี พ.ศ. 2553 - 2554 ของจังหวัดขึ้น ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในเขตพื้นที่ พร้อมทั้งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำศูนย์ฯ เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะอากาศหนาวเย็นที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และที่จังหวัดทุกจังหวัดด้วย
3. สถานการณ์ภัยหนาว (ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. - 20 ธ.ค. 2553)
ในขณะนี้ได้รับรายงานจังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) เนื่องจากมีสภาพอากาศหนาว (อุณหภูมิ 8.0 - 15.9 องศาเซลเซียส) ถึงหนาวจัด (อุณหภูมิต่ำกว่า 8.0 องศาเซลเซียส) จำนวน 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา เพชรบูรณ์ แพร่ ตาก น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มุกดาหาร มหาสารคาม เลย สกลนคร หนองคาย อุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี รวม 262 อำเภอ 1,966 ตำบล 22,913 หมู่บ้าน
4. การให้ความช่วยเหลือของหน่วยงาน
4.1 จังหวัดที่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) ทั้ง 20 จังหวัด รายงานว่าได้มอบเครื่องกันหนาวให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนผ้าห่มกันหนาวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ สมาคม มูลนิธิ ไปแล้ว รวม 284,503 ชิ้น
4.2 บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนผ้าห่มกันหนาว จำนวน 200,000 ผืน เพื่อแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม สกลนคร หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ นครราชสีมา เชียงราย น่าน ลำปาง เชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
4.3 หอการค้าไทย-จีน และสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ได้มอบผ้าห่มช่วยเหลือภัยหนาว จำนวน 2,000 ผืน ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553โดยกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยงานกลางในการนำผ้าห่มกันหนาวไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่ต่าง ๆ
4.4 บริษัท ซีพี จำกัด (มหาชน) (เครือเจริญโภคภัณฑ์) ได้ให้การสนับสนุนผ้าห่มกันหนาว จำนวน 50,000 ผืน มูลค่า 12.5 ล้านบาท ซึ่งจัดซื้อจากกลุ่มแม่บ้านผู้ผลิตผ้าห่มนวม จังหวัดสกลนคร ตามนโยบายส่งเสริมอาชีพและช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้นของกระทรวงมหาดไทย และได้มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล) เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2553 เพื่อแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ในพื้นที่ 10 จังหวัดได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน น่าน พะเยา สกลนคร นครพนม เลย อุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น
4.5 กรณีกลุ่มอาชีพผลิตผ้าห่มนวมที่ได้รับความเดือดร้อน ได้ร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ภาครัฐจัดซื้อผ้าห่มนวมที่ได้ผลิตไว้แล้ว นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้สำรวจข้อมูลกลุ่มอาชีพผลิตผ้าห่มนวมที่ได้รับความเดือดร้อน พบว่ามีจำนวน 662 กลุ่ม ในพื้นที่ 30 จังหวัดจึงเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดซื้อผ้าห่มนวมจากกลุ่มอาชีพฯ ดังกล่าว จำนวน 4,386,562 ผืน ในราคาผืนละ 180 บาท ในวงเงิน 789,581,160 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 อนุมัติในหลักการให้จังหวัดจัดซื้อจากกลุ่มอาชีพผลิตผ้าห่มนวม ที่จดทะเบียนที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สำรวจแล้ว ในราคาผืนละไม่เกิน 180 บาท ภายในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณเกี่ยวกับ คุณลักษณะเฉพาะและราคาต่อหน่วยของผ้าห่มที่จะจัดซื้อให้เหมาะสมและสะท้อนต้นทุนของผู้ผลิตก่อนดำเนินการต่อไป ซึ่งกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0617/14130 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 2553 ถึงสำนักงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับ คุณลักษณะเฉพาะและราคาต่อหน่วยของผ้าห่มที่จะจัดซื้อให้เหมาะสมและสะท้อนต้นทุนของผู้ผลิต มี 2 แบบ ได้แก่ แบบที่ 1 ผ้านวมผลิตจากใยสังเคราะห์ พร้อมปลอกหุ้มเป็นผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์หน้าผ้า 45 นิ้ว และแบบที่ 2 ผ้านวมผลิตจากใยสังเคราะห์ พร้อมปลอกหุ้มเป็นผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ หน้าผ้า 60 นิ้ว ผ้าทั้ง 2 แบบ มีขนาดของผ้าห่มนวม ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 140 เซนติเมตร ความยาวไม่น้อยกว่า 190 เซนติเมตร กำหนดราคาผ้าห่มนวมตามคุณลักษณะเฉพาะแบบที่ 1 และ 2 ในราคาผืนละ 180 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่าราคาเฉลี่ยต่อผืน ที่ได้สำรวจมา และเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทั้งนี้ได้ส่งเรื่องให้ สำนักงบประมาณพิจารณาแล้ว
5. สิ่งของพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว
กองงานพระวรชายาฯ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงโปรดให้ผู้แทนพระองค์ เดินทางไปมอบถุงพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพชรบูรณ์ ขอนแก่น สกลนคร ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน และจังหวัดพะเยา ในระหว่างวันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2553 รวม จำนวน 11,400 ถุง นมอัดเม็ดจิตรลดา 50 กล่อง และนมสด 50 กล่อง
อนึ่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับรายงานข้อมูลเหตุแผ่นดินไหว (ระหว่างวันที่ 14 - 20 ธันวาคม 2553 จากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าได้เกิดแผ่นดินไหว แต่ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 เวลา 18.29 น. แผ่นดินไหวบริเวณทะเลบันดา ประเทศอินโดนีเซีย ขนาด 6.0 ริกเตอร์ และเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2553 เวลา 05.56 น. แผ่นดินไหวในทะเลบริเวณ Northern Sumatra, Indonesia ขนาด 5.3 ริกเตอร์ ศูนย์กลาง 488 กิโลเมตร จากชายฝั่งทะเลจังหวัดภูเก็ต
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 ธันวาคม 2553--จบ--