แท็ก
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร่างพระราชบัญญัติ
สุขภัณฑ์กะรัต
คณะรัฐมนตรี
ประธานสภา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอว่า ปัจจุบันกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภาไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทนพิเศษและการจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อื่นให้กับบุคลากรฝ่ายรัฐสภา
จึงเป็นการสมควรกำหนดให้ ก.ร. มีอำนาจกำหนดค่าตอบแทนพิเศษและการจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อื่นให้กับบุคลากรฝ่ายรัฐสภา ประกอบกับเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสังกัดรัฐสภาสมควรแก้ไขให้การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการรัฐสภาสามัญเพื่อดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 9 ลงมาเป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาและให้มีการกำหนดบำเหน็จความชอบแก่ข้าราชการรัฐสภาสามัญที่ปฏิบัติราชการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อทางราชการ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ ก.ร. มีอำนาจกำหนดค่าตอบแทนพิเศษและการจัดสวัสดิการ หรือการสงเคราะห์อื่น ให้กับบุคลากรของรัฐสภา (ร่างมาตรา 3 เพิ่มเติมมาตรา 13 (7))
2. กำหนดให้การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 9 ลงมา ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบปฏิบัติราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2518 เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง (ร่างมาตรา 4 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 28 (2))
3. กำหนดให้บำเหน็จความชอบแก่ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ที่ปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการและปฏิบัติราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ร. กำหนด (ร่างมาตรา 5 เพิ่มเติมเป็นมาตรา 36 ทวิ)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2550--จบ--
ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอว่า ปัจจุบันกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภาไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทนพิเศษและการจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อื่นให้กับบุคลากรฝ่ายรัฐสภา
จึงเป็นการสมควรกำหนดให้ ก.ร. มีอำนาจกำหนดค่าตอบแทนพิเศษและการจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อื่นให้กับบุคลากรฝ่ายรัฐสภา ประกอบกับเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสังกัดรัฐสภาสมควรแก้ไขให้การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการรัฐสภาสามัญเพื่อดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 9 ลงมาเป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาและให้มีการกำหนดบำเหน็จความชอบแก่ข้าราชการรัฐสภาสามัญที่ปฏิบัติราชการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อทางราชการ จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ ก.ร. มีอำนาจกำหนดค่าตอบแทนพิเศษและการจัดสวัสดิการ หรือการสงเคราะห์อื่น ให้กับบุคลากรของรัฐสภา (ร่างมาตรา 3 เพิ่มเติมมาตรา 13 (7))
2. กำหนดให้การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 9 ลงมา ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบปฏิบัติราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2518 เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง (ร่างมาตรา 4 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 28 (2))
3. กำหนดให้บำเหน็จความชอบแก่ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ที่ปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการและปฏิบัติราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ร. กำหนด (ร่างมาตรา 5 เพิ่มเติมเป็นมาตรา 36 ทวิ)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2550--จบ--