การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างไทยและอินโดนีเซีย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 5, 2011 12:01 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้ง 3 ข้อ ดังนี้

1. เห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจด้านการศึกษาระหว่างไทยและอินโดนีเซีย

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย

3. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รายงานว่า

1. ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-อินโดนีเซีย ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2550 ณ กรุงเทพมหานคร ที่ประชุมได้สนับสนุนให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจด้านการศึกษา (MOU) ระหว่างกัน เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการไทยและกระทรวงศึกษาธิการแห่งชาติอินโดนีเซียมีการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือทางด้านการศึกษาระหว่างกันในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง

2. เมื่อปี พ.ศ. 2552 สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียได้เสนอร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้กระทรวงศึกษาธิการไทยพิจารณา โดย ศธ.ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดพิจารณาประเด็นความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซีย และได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พิจารณาในเดือนสิงหาคม 2552 ซึ่ง ศธ. ได้มีการปรับแก้ไขตามข้อเสนอของ กต. และส่งให้ฝ่ายอินโดนีเซียพิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ทั้งนี้ ฝ่ายอินโดนีเซียแจ้งให้ความเห็นชอบในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในเดือนกันยายน 2553 โดยมีการปรับแก้ไขข้อความบางส่วนซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญ

3. ในปี 2554 กระทรวงศึกษาธิการของบรูไน ดารุสซาลาม จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 46 ซึ่งจัดขึ้นคู่ขนานกับการประชุมรัฐมนตรีศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 26 — 29 มกราคม 2554 ซึ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีศึกษาของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 11 ประเทศ รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจากประเทศอินโดนีเซียและไทยด้วย จึงนับว่าเป็นโอกาสดีหากรัฐมนตรีจากทั้งสองประเทศจะได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว

4. ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างสองประเทศให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่ายและการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้บริหารการศึกษา เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักวิจัย ครู และนักเรียน รวมถึงการแลกเปลี่ยนสื่อการเรียนการสอน สื่อสิ่งพิมพ์ ข้อมูลข่าวสาร การสอนภาษา การศึกษาดูงาน การฝึกอบรม และการวิจัยในสาขาที่มีความสนใจร่วมกัน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 มกราคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ